xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเผชิญแรงกดดันสงครามการค้าที่ยังไร้ข้อสรุป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หุ้นปิดเช้าลบ 4.14 จุด แนวเดียวกับตลาดภูมิภาค เผชิญแรงกดดันสงครามการค้ายังไร้ข้อสรุป ซึ่งมีผลให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงขายออกมา โดยกลยุทธ์การลงทุน ควรจะระวังหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมมองหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีข่าวหนุนสามารถเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนของภาครัฐฯ จะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบ จากยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกที่คลุมเครือ และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา โดยสงครามการค้ายังไม่มีข้อสรุป ซึ่งมุมมองฝ่ายวิจัย KGI จีน และ KGI ไต้หวัน คาดว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจากจีนมูลค่าอีก 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนประมาณ 0.5% ต่อปี หากรวมกับมาตรการภาษี 25% กับสินค้ามูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ผลกระทบรวมต่อ GDP จีนน่าจะอยู่ที่ 0.8% ต่อปี ซึ่งหากยังไม่มีข้อสรุปก็จะกดดันตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย

นอกจากนี้ ยังทำให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงขายออกมา ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนช่วงที่นักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ และมีปัจจัยลบจากต่างประเทศ จึงควรจะระวังหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงสั้น แล้วรอให้สงครามการค้ามีความชัดเจน พร้อมมองหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีข่าวหนุนสามารถเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนของภาครัฐฯจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,668.28 จุด ลดลง 4.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 23,000.43 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่ง Sideway Down โดยมีแนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น