ก.ล.ต. เปิดตัวโครงการ “5 ขั้นมั่นใจลงทุน” ร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน สร้างประสบการณ์ใหม่ของการแนะนำการลงทุนอย่างครบวงจร ผ่านบริการออกแบบการลงทุน 5 ขั้นตอน มุ่งเป็นตัวช่วยสำคัญให้ประชาชนได้รับการดูแลการลงทุนที่ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวรับสังคมผู้สูงอายุของไทย
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา การบริการให้คำปรึกษาและแนะนำการลงทุนที่ครบวงจรจะจำกัดอยู่เพียงกลุ่มคนที่เป็นผู้มีเงินลงทุนจำนวนสูง (private wealth) เท่านั้น ในขณะที่ประชาชนทั่วไปมักประสบปัญหาในการลงทุน เนื่องจากได้รับข้อมูลมากมาย แต่ไม่สามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีอยู่หลากหลายได้ หรือได้รับคำแนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์เป็นรายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่ผู้ขายได้รับค่าตอบแทนการขายสูงหรือต้องการเพิ่มยอดขาย รวมทั้งขาดผู้ติดตามดูแลการลงทุนให้หลังจากที่ได้ลงทุนไปแล้ว จึงทำให้คนทั่วไปไม่สามารถใช้ตลาดทุนเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินได้
“โครงการ 5 ขั้นมั่นใจลงทุน เกิดจากความตั้งใจของ ก.ล.ต. ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ประกอบกับพัฒนาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินในปัจจุบัน มีส่วนสำคัญที่ทำให้การให้บริการดูแลการลงทุนที่ครบวงจรเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำ ตั้งแต่ 1. การสำรวจและทำความเข้าใจลูกค้า 2. การกำหนดแผนจัดสรรการลงทุน (asset allocation) 3. การแนะนำการลงทุนแบบองค์รวม 4. การติดตามและปรับปรุงการลงทุน และ 5. การรายงานภาพรวมการลงทุนของลูกค้า จึงทำให้ผู้รับบริการมีความพร้อมในการจัดการบริหารทรัพย์สินของตนเองเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน”
ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. แล้ว 26 ราย และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกตามลำดับ โดยผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความเห็นชอบจะสามารถให้บริการออกแบบการลงทุนทั้ง 5 ขั้นตอนได้ ภายใต้ขอบเขต
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตของตน ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น ๆ ที่สนใจสามารถยื่นขอรับความเห็นชอบต่อ ก.ล.ต. ได้ โดย ก.ล.ต. จะพิจารณาคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้รายชื่อหน่วยงานพันธมิตรโครงการ (18 ราย) ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ คณะกรรมการกองทุน การออมแห่งชาติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมฟินเทคประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
และสมาคมซีเอฟเอไทยแลนด์
ขณะที่ ผู้ประกอบธุรกิจ 26 ราย ที่ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้ออกแบบการลงทุนได้รับอนุญาตแล้ว ได้แก่
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 7 ราย ได้แก่
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : KTBST
บล. กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) : KS
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด : DBSV
บล. ธนชาต จำกัด (มหาชน) : TNS
บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) : BLS
บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : Phillip
บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด : YUANTA
2. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จำนวน 7 ราย ได้แก่
บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) : KTAM (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
บลจ. กรุงศรี จำกัด : KSAM (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
บลจ. กสิกรไทย จำกัด : KASSET
บลจ. ทหารไทย จำกัด : TMBAM
บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด : SCBAM
บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด : MPAM
บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด : UOBAM (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
3.กลุ่มธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6 ราย ได้แก่
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) : BBL
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) : KTB (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK
ธนาคารซิตี้แบงก์ สาขากรุงเทพฯ : Citibank (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) : TMB (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) : SCB
4.กลุ่มบริษัทประกันชีวิต จำนวน 2 ราย ได้แก่
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
บริษัท เอไอเอ จำกัด
5.กลุ่มฟินเทคสตาร์ทอัพ (4 ราย) ได้แก่
บลน. ฟินโนมีนา จำกัด : Finomena
บลป. เทรเชอริสต์ จำกัด : Treasurist (อยู่ระหว่างจะทยอยเปิดให้บริการ)
บลน. โรโบเวลธ์ จำกัด : Robowealth
บลน. เว็ลธ์ เมจิก จำกัด : WealthMagik