xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็กซิมแบงก์” ประเมินภาคส่งออกครึ่งปีหลังโตที่ 9%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอ็กซิมแบงก์ เร่งปล่อยสินเชื่อใหม่หวังทำยอดได้ 1 แสนล้านบาทเมื่อถึงสิ้นปี 61 คาดส่งออกช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตแผ่วลงเล็กน้อยที่ 9% หลัง 7 เดือนก่อนหน้าผู้ส่งออกได้เร่งส่งออกสินค้าจนดันให้ภาคส่งออกขยายตัวถึง 10.6% เหตุหวั่นผลกระทบจากสงครามการค้ามหาอำนาจในช่วงครึ่งหลังของปี

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ได้คาดถึงทิศทางการขยายตัวในภาคส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจจะแผ่วลงบ้าง โดยคาดว่าน่าจะเติบโตได้ 9% หลังจากในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สามารถขยายตัวได้ถึง 10.6%

ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังมองว่า สงครามการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้ ดังนั้น เอกชนจึงได้เร่งส่งออกสินค้าในช่วงแรกเพื่อปรับตัวหนีจากปัจจัยลบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการ ธสน. ระบุว่า ยังต้องติดตามผลระยะยาวเกี่ยวกับกลุ่มประเทศเกินดุลการค้า อาจต้องปรับตัวหันมาลงทุนในประเทศนั้นๆ แทนการส่งออกไปยังประเทศกลุ่มเป้าหมาย ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังต้องจับตาอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากหากอัตราเงินเฟ้อมีการขยับตัวขึ้นแล้วย่อมจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 0.25% ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในช่วงนี้มีความผันผวนน้อยลงแล้ว

ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 61 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 9.8 หมื่นล้านบาท จากยอดเป้าหมายทั้งปี 1 แสนล้านบาท ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) 3.56% ซึ่งยังไม่ขยับขึ้นจนน่ากังวล ดังนั้น เพื่อช่วยผลักดันยอดสินเชื่อใหม่ปีนี้ให้ได้ 3 หมื่นล้านบาท ธสน. จึงได้ออกสินเชื่อเน้นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง (กลุ่ม M) ของไทยที่ยังมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว คือ มีไม่ถึง 1% ของผู้ประกอบการทั้งหมด ขณะที่ผู้ส่งออกขนาดกลางสัดส่วน 10% ของผู้ส่งออกทั้งหมดที่มี 2.8 หมื่นราย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการกลุ่ม M ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึง 12.5% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ที่มีทั้งสิ้น 1.79 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 1 ล้านราย มีสัดส่วนการส่งออก 9.4% ของมูลค่าส่งออกรวมของทั้งประเทศทีมีราว 7.1 แสนล้านบาท

กรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการพัฒนาบริการใหม่เพื่อเต็มเติมความต้องการของผู้ส่งออกขนาดกลางที่มียอดขายตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท ทั้งในด้านเงินทุนเพื่อสนับสนุนการขยายกิจการส่งออก-นำเข้า และยกระดับกระบวนการผลิต และด้านเครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อธุรกิจขนาดกลาง (EXIM for M Credit) ที่เป็นสินเชื่อหมุนเวียนทั้งก่อนและหลังการส่งออก โดยมีวงเงินสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยปีแรกขั้นต่ำจะอยู่ที่ Prime Rate ลบ 2.00% ต่อปี หรือที่ 4.25% ต่อปี ส่วนปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ Prime Rate ลบ 1.50% ต่อปี หรือ 4.75% ต่อปี ขณะที่ปีที่ 3 เป็นต้นไป จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามมาตรฐานธนาคาร พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สูงสุด 3 เท่าของวงเงินสินเชื่อ ใช้หลักประกันขั้นต่ำ 35% และบุคคลค้ำประกัน

นอกจากนี้ ธสน. ยังได้ออกสินเชื่อรับซื้อตั๋วเพื่อธุรกิจขนาดกลาง (EXIM Nego for M Credit) เป็นสินเชื่อหมุนเวียนหลังการส่งออก เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลาง วงเงินสูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยปีแรก ขั้นต่ำอยู่ที่ Prime Rate -2.00% ต่อปี (หรือ 4.25% ต่อปี) ปีที่ 2 ขั้นต่ำ Prime Rate -1.50% ต่อปี (หรือ 4.75% ต่อปี) ปีที่ 3 เป็นต้นไป เป็นไปตามมาตรฐานธนาคาร พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สูงสุด 3 เท่าของวงเงินสินเชื่อ ใช้หนังสือค้ำประกันของ บสย. และบุคคลค้ำประกัน หรือหลักประกันขั้นต่ำ 30% และบุคคลค้ำประกัน ทั้งสองบริการนี้มีระยะเวลาอนุมัติตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ก.ค.62 โดยมีเป้าหมายอนุมัติวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น