ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ระบุการประชุม กนง. เดือน ก.ย.นี้ เตรียมทบทวนการดำเนินนโยบายผ่อนคลายพิเศษ หมดยุคดอกเบี้ยต่ำ และทบทวนเป้าจีดีพี แนะผู้ส่งออกเตรียมพร้อมรับมือต่อความผันผวนของตลอดเงินตลาดทุนที่จะเกิดขึ้นอีกระยะหนึ่ง
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนนี้ คณะกรรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะทบทวนใช้นโยบายผ่อนคลายพิเศษที่มีความจำเป็นน้อยลงในการใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงหลายประเทศในประเทศอุตสาหกรรมหลักเริ่มปรับทิศทางนโยบายการเงินกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในหลายประเทศที่เห็นชัด สหรัฐอเมริกา มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง และจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ และปีต่อไป ซึ่งประเทศไทยคงจะต้องมาทบทวนเช่นเดียวกัน ส่วนจะปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสม
“การปรับอัตราดอกเบี้ยคงต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งต้องมีปัจจัยหลายอย่างประกอบด้วย เช่น แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ ซึ่ง ธปท. ใช้เป้าหมายเงินเฟ้อในการดูแลเศรษฐกิจ และทิศทางในระยะต่อไป แนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะแข็งแกร่งหรือไม่ แต่ยังยืนยันว่า หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่า นโยบายการเงินจะเปลี่ยนทิศทางทันที” นายวิรไท กล่าว
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกได้ผ่านช่วงวิกฤตมาระดับหนึ่ง จึงจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายพิเศษในการดูแลภาพรวม ปัจจุบัน เศรษฐกิจหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรมเริ่มใช้นโยบายปกติ ทำให้ช่วงนี้และระยะต่อไปจะมีความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุน ธปท. ในฐานะกำกับดูแลเตรียมเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และมีความพร้อมในการดูแลความผันผวนของตลาดเงิน ส่วนผู้ประกอบการจะต้องเร่งปิดความเสี่ยง โดยทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ เช่น การใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการซื้อขายสินค้าระหว่างกัน ซึ่งนอกจากช่วยลดความผันผวนของค่าเงินได้ ยังช่วยลดต้นทุนได้ด้วย
ส่วนผลกระทบจากการอ่อนค่าของค่าเงินตุรกีอย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูง เงินสำรองมีจำกัด จึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ทำให้ค่าเงินในประเทศเกิดใหม่ผันผวน แต่สำหรับไทยนั้นจะกระทบในวงจำกัด เนื่องจากมีการค้าขายระหว่างกันไม่มาก ประกอบกับไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง มีเสถียรภาพ สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง สะท้อนจาก 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทไทยผันผวนไม่มากนัก