เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย งวด 6 เดือนแรกปีนี้ กำไร 39.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56.48 ล้านบาท คิดเป็น 68.43% ผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้อยู่หมัด พร้อมแจ้งวันประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 24 กันยายน 2561 เพื่อขอมติอนุมัติการขยายวงเงินการออก และเสนอขายหุ้นกู้จากเดิมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 1,500 ล้านบาท
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 68.45 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 36.52 ล้านบาท ขณะที่งวดหกเดือนปี 2561 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิ 139.02 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 56.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 68.43 และสําหรับงวดหกเดือนปี 2560 และ 2561 มีอัตราส่วนรายได้รวมต่อกําไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 19.92 และ 15.36 ตามลําดับ โดยเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับรายได้รวมลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้รวมสําหรับงวดหกเดือนปี 2560 และ 2561 คิดเป็นร้อยละ 15.25 และร้อยละ 12.46 ตามลําดับ
โดยในงวดนี้บริษัทมีรายได้รวม 698.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 160.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.93 ทั้งนี้ รายได้งวดหกเดือนปี 2561 แต่ละธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้ค่าสิทธิจากธุรกิจให้บริการและจําหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เติบโตร้อยละ 19.86 เทียบกับกับรายได้งวดเดียวกันปี 2560 อีกทั้งรายได้จากการให้บริการจากธุรกิจบริการโฆษณา เติบโตร้อยละ 73.33 และจากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ จากธุรกิจจําหน่ายผลิตภัณฑ์เติบโตร้อยละ 3,812.79
ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริการสําหรับงวดหกเดือนปี 2561 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2560 เนื่องจากในปี 2561 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการจัดงาน (Event) รวมถึงการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้า เพื่อเป็นการโปรโมตและประชาสัมพันธ์คอนเทนต์ เช่น ซีรีส์อินเดีย เพื่อให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ชมซีรีส์ และลูกค้ากลุ่มอื่นของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น
พร้อมกันนี้ JKN แจ้งการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 กันยายน 2561 เพื่อขอมติอนุมัติการขยายวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ จากเดิมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 1,500 ล้านบาท และกำหนดให้วันที่ 28 สิงหาคม 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 (Record Date)