พฤกษาปรับทับใหม่ ตั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว-คอนโดฯ แวลู และคอนโดฯ พรีเมียม หวังสู้ศึกตลาดอสังหาฯ แข่งเดือด ดันยอดขายทะลุ 5.3 หมื่นล้าน
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการบริหารภายในองค์กรใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจจากเดิมแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจแวลู และธุรกิจพรีเมียม แต่ในช่วงที่ผ่านมา การแข่งขันของตลาดมีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดทาวน์เฮาส์ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และตลาดหลักของบริษัท ที่มีสัดส่วนอยู่กว่า 60% จึงจำเป็นต้องแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและวางแผนธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เพื่อให้สามารถคงความเป็นผู้นำของตลาด และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้แบ่งกลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ โดยมีนายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-ทาวน์เฮาส์ เป็นผู้บริหารโครงการทางน์เฮาส์ทั้งหมด
2. กลุ่มธุรกิจแวลู ซึ่งจะมีโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมระดับราคากลาง-ล่าง โดยมีนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-แวลู เป็นผู้บริหาร รวมถึงการบริหารงานโรงงานพรีแคสและซื้อที่ดิน
3. กลุ่มธุรกิจพรีเมียม บริหารโครงการคอนโดมิเนียมระดับบนใจกลางเมืองโดยมีนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม เป็นผู้บริหาร
นอกจากนี้ ยังได้วางกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขายในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เพราะปัจจุบันจะขายด้วยวิธีเดิม ๆ ไม่ทำไม่ได้อีกแล้ว โดยบริษัทเลือกวิธีการขายแบบไร้ขอบเขต ได้แก่ Pruksa Member ลูกค้าแนะนำลูกค้าที่ได้ผลดีมาก โดยในปีที่ผ่านมา มียอดขายจากลูกค้าบอกต่อถึง 4,000 ล้านบาท การขายแบบ BtoB หรือลูกค้าองค์กรที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 40 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคู่ค้าของบริษัท และจะเพิ่มจำนวนบริษัทมากขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการขายผ่านเอเยนต์ รวมถึงการให้พนักงานทุกคนสามารถเป็นตัวแทนขายโดยจะได้รับค่านายหน้าเป็นผลตอบแทน
นางสุพัตรา กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน บริษัทมีสต๊อกบ้านสร้างเสร็จพร้อมขายประมาณ 16,100 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 8,300 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 4,100 ล้านบาท และคอนโดฯ 3,700 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมจัดแคมเปญการตลาดครบรอบ 25 ปี ซึ่งจะมีทั้งส่วนลดราคาบ้านและลุ้นจับรางวัลรถยนต์ 25 คัน มูลค่า 18 ล้านบาท
สำหรับถึงผลการดำเนินงานปี 2560 ว่า ปี 2560 สามารถทำยอดขายรวมได้ 47,536 ล้านบาท เติบโต 7% จากปี 2559 ที่มียอดขาย 44,342 ล้านบาท โดยสามารถทำรายได้รวมอยู่ที่ 43,922 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,454 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวม 75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท ซึ่งมีการซื้อที่ดินไว้ทุกแปลงแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถเปิดขายได้ตามแผนที่วางไว้ และสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ 53,700 ล้านบาท และสามารถรับรู้รายได้ 50,500 ล้านบาท