สมรภูมิตลาดอสัางหาฯ ออนไลน์ร้อนระอุ “ดอท พร็อพเพอร์ตี้” ปรับแผนสร้างแบรนด์รับมือสื่อออนไลน์แข่งดุ จับตาผู้ประกอบการเทงบใช้สื่อโซเชียล-ออนไลน์ปี 61 เพิ่มกว่า 4,000 ล้านบาท
นางณัฐธนธร ฟอร์ด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ดำเนินเว็บไซต์ dotproperty กล่าวถึงสภาพการแข่งขันในตลาดสื่อออนไลน์ว่ามีการปรับเปลี่ยนไปมาก โดยผู้ประกอบการขนาดใหญ่เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยให้น้ำหนักกับสื่อออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากผลวิจัยที่บริษัททำมา พบว่า ในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายใหญ่จะมุ่งดิจิทัลออนไลน์ โดยพบมีการใช้งบลงทุนสื่อออนไลน์ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.7% จากงบประมาณแต่ละโครงการ ซึ่งเฉลี่ยโครงการอสังหาริมทรัพย์จะมีตัวเลขงบการตลาดประมาณ 2-3% หรือทั้งระบบมีมูลค่าเงินลงทุนในส่วนของสื่อโซเชียลและสื่อออนไลน์ในปีที่ผ่านมา ประมาณ 3,000 ล้านบาท
“จะพบว่าเงินจำนวนมากจะไปกองอยู่ที่กูเกิล เฟซบุ๊ก และสื่อออนไลน์ และนับวันจะมีมากขึ้น โดยส่วนตัวคาดว่า ปี 2561 ค่าเฉลี่ยใช้งบจะเพิ่มกว่า 1% หรือมีมูลค่าประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งวัดเฉพาะบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น แปลว่า มูลค่าจริงจะมากกว่านี้ ซึ่งสอดรับกับแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะใช้สื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และเทรนด์ในอนาคตเชื่อว่า การตัดสินใจของผู้ประกอบการที่จะให้สนับสนุนสื่อออนไลน์ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าสื่อไหนที่สามารถนำลูกค้าไปซื้อโครงการของผู้ประกอบการนั้น ๆ ได้มากที่สุด”
สำหรับบริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเว็บไซต์สำหรับซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาฯ ที่มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการโครงการ และตัวแทนขายอสังหาฯ ปัจจุบันทำตลาดเว็บที่ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีลาว และพม่า ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายผ่านเว็บแล้วมากกว่า 200,000 รายการ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) ซึ่งรายได้หลักมาจากผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ขายที่อยู่อาศัยมือ 1 และจากนายหน้าอสังหาฯ
ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือกับการแข่งขันที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น ในครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯ จะปรับโครงสร้างและกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพให้รัดกุม มีมาตรฐานในการทำงานให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น รวมไปถึงเข้ากับบริษัทแม่ คือ มิทูลา กรุ๊ป จากประเทศสเปนที่มาเทกโอเวอร์กิจการเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
“เราจะมีการสร้างการรับรู้แบรนด์มากขึ้นด้วยการปรับฟังก์ชันการใช้งานให้เข้ากับการใช้งานของผู้บริโภค อาทิ การติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายผ่านแอปพลิเคชันโดยตรง โดยไม่ต้องแอดไลน์ผ่านไอดีแต่อย่างใด”
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทจะรุกธุรกิจการนำโครงการจากต่างประเทศ จัดโรดโชว์ในประเทศไทย และต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น โดยในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการเจรจาอยู่ประมาณ 5-10 รายส่วนใหญ่เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มทวีปออสเตรเลีย และมี 1 รายที่เป็นลูกค้าจากอังกฤษ และต้องการนำสินค้าไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์
อีกทั้งยังได้เตรียมจัดงานพร็อพเพอร์ตี้โชว์ ซึ่งเป็นงานแสดงโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน และคอนโดฯ ระหว่างวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในการเข้าร่วมงาน และจากกระแสความสนใจการลงทุนด้านอสังหาฯ จากต่างประเทศมากขึ้น.