xs
xsm
sm
md
lg

ทิศทางศก.USดีขึ้นกดดันราคาทองคำปรับตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส กดดันราคาทองคำ หนุนสินทรัพย์เสี่ยงตลาดเงิน-ตลาดทุนปรับตัวเพิ่ม หลังแนวโน้มการปฏิรูปภาษีของ "ทรัมป์" เริ่มมีแรงสนับสนุน แต่โดยรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังไม่แตกต่างจาก 2 เดือนก่อนหน้า แนะมองแนวรับที่ 1,266 เหรียญเป็นจุดเข้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากการรีบาวนด์ แต่หาไปไม่พ้น 1,293-1,307 เหรียญ ควรลดการถือครองเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน

"วรุต รุ่งขำ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำที่ผ่านมาว่า ทองคำเริ่มถูกกดดันจากทิศทางดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่ายิ่งขึ้น ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจของอเมริกาที่ออกมาค่อนข้างสดใส ไม่ว่าจะเป็นGDPไตรมาส3 รวมถึงค่าใช้จ่ายทางด้านการบริโภค และดัชนีเงินเฟ้อ (PCE) ที่มีทิศทางค่อนข้างแข็งแกร่ง สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถคุมเข้มนโยบายการเงิน อย่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามแผนที่วางเอาไว้

"ทองคำได้รับแรงกดดันอย่างชัดเจน เมื่อดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 24,000 จุด ตอบรับความเชื่อมั่นการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากมีวุฒิสมาชิกบางท่านกลับมาสนับสนุนให้มีการผ่านร่างกฏหมายดังกล่าว ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์กลับมาคึกคัก และเกิดแรงขายทำกำไรในทองคำออกมาอย่างชัดเจน"

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม มองไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯเพื่อชี้นำราคาทองคำ ประกอบกับการรอดูแรงซื้อแรงขายของกองทุนขนาดใหญ่อย่างเช่นกองทุน SPDR ซึ่งที่ผ่านมามีการลดการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างแนวโน้มหรือโมเมนตัมเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำในระยะกลาง โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิต , ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ,ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งข้อมูลดังล่าวจะทำให้นักลงทุนสามารถประเมินทิศทางความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯได้มากขึ้น

โดยกลยุทธ์ลงทุน เนื่องจากราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ถึงแม้ว่ามุมมองหรือโมเมนตัวในลักษณะ Sideway จะเสียไป แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำหากดูจากเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวไม่แตกต่างกันมากนัก โดยประเมินกรอบแนวรับด้านล่างที่ 1,266 เหรียญ/ออนซ์ เป็นจุดเข้าลงทุนบริเวณโซนแนวรับดังกล่าว เพราะหากราคาทรงตัวหรือตังฐานได้ ประเมินว่าน่าจะมีการรีบาวนด์หรือดีดตัวขึ้น แต่หากแรงซื้อไม่มากพอจะราคาไม่สามารถผ่านระดับ 1,293 -1,307 เหรียญ/ออนซ์ แนะนำทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง และควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งแนวโน้มเริ่มมีทิศทางกลับมาอ่อนค่าได้บ้าง แต่ยังถือว่าไม่มากนัก เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐยังคงมีทิศทางแกว่งตัวผันผวน
 

กำลังโหลดความคิดเห็น