xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดช็อปช่วยชาติ ปีนี้กระตุ้น ศก. ได้หมื่น ลบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดช็อปช่วยชาติ ปีนี้กระตุ้น ศก. ได้หมื่น ลบ. แนะห้างร้านเตรียมพร้อมเพื่อหนุนการใช้จ่ายผู้บริโภค คาดจะส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีนี้น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เห็นชอบให้มีการใช้มาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2560 เป็นวงเงิน 15,000 บาท ระยะเวลารวม 23 วัน โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีประจำปี 2560 ได้นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มาตรการช็อปช่วยชาติดังกล่าวน่าจะช่วยสร้างบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยให้กับธุรกิจค้าปลีกได้เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ และน่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ เช่น ผู้ผลิตสินค้า (Supplier) เกษตรกร รวมถึงการจ้างงานของธุรกิจต่าง ๆ ในห่วงโซ่ของธุรกิจค้าปลีก

จากที่ก่อนหน้านี้ ธุรกิจค้าปลีกยังคงเผชิญกับปัจจัยกดดันทางด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มฐานราก ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของประเทศ โดยสะท้อนได้จากเครื่องชี้เศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ราคาสินค้าเกษตรที่เริ่มมีแนวโน้มลดลง, อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น, ยอดขายของสินค้าไม่คงทนและกึ่งคงทนที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน รวมถึงภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และตุลาคม-พฤศจิกายน และครอบคลุมหลาย ๆ พื้นที่ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ยังคงกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะมีแนวโน้มเติบโตดี หลายภาคส่วนมีการปรับประมาณการ GDP เพิ่มขึ้น ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว เป็นหลัก แต่หากมองในฝั่งกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ กลับพบว่า การเติบโตยังคงกระจุกตัวในบางภาคส่วน โดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน (รถยนต์) แต่ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค (ไม่คงทน และกึ่งคงทน) ยังคงมีความเปราะบาง หรือยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน

“แรงส่งของมาตรการช็อปช่วยชาติปีนี้น่าจะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในธุรกิจค้าปลีก คิดเป็นเงินใกล้เคียงกับที่ภาครัฐได้ประเมินไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกควรเตรียมพร้อม ทั้งในเรื่องของสต๊อกสินค้า การจัดการเรื่องของใบกำกับภาษี และเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เร็วขึ้นกว่าปีก่อน เพื่อหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค” เอกสารเผยแพร่ระบุ

ทั้งนี้ จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า มาตรการช็อปช่วยชาติ 15,000 บาท ปีนี้จะมีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้

จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า มาตรการช็อปช่วยชาติ ปี 60 คนที่มีฐานรายได้สุทธิมากกว่า 500,000 บาทต่อปีขึ้นไป ยังคงวางแผนใช้สิทธิใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะคนที่มีฐานรายได้สุทธิ 2 ล้านบาทขึ้นไป วางแผนที่จะใช้สิทธิเต็มจำนวน แต่คนที่มีฐานรายได้สุทธิไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี วางแผนที่จะใช้สิทธิลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากยังคงกังวลกำลังซื้อในอนาคต และโดยปกติ ก็เสียภาษีในอัตราที่ไม่สูงมาก จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่าย เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเพิ่ม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า แรงส่งของมาตรการช็อปช่วยชาติปีนี้น่าจะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในธุรกิจค้าปลีกใกล้เคียงกับที่ภาครัฐได้ประเมินไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่จากการสำรวจพบว่ากว่า 40% ของผู้ที่จะใช้สิทธิจากมาตรการดังกล่าว มีแผนที่จะใช้จ่ายอยู่แล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพียงแต่อาจวางแผนเลื่อนวันในการซื้อสินค้าให้เร็วขึ้นในช่วงที่ออกมาตรการ เพื่อต้องการใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่ และมีมูลค่าต่อชิ้นสูง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปีนี้ผู้ประกอบการค้าปลีกควรเตรียมพร้อม ทั้งในเรื่องของสต๊อกสินค้า การจัดการเรื่องของใบกำกับภาษี และเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เร็วขึ้นกว่าปีก่อน เพื่อหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค และส่งผลให้คาดว่า บรรยากาศโดยรวมในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีนี้ น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจากการกระตุ้นการใช้จ่ายโดยผู้ประกอบการร้านค้าปลีกต่าง ๆ 2 รอบ คือ ช่วงมาตรการช็อปช่วยชาติ และช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งต่างจากปีก่อนที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น