รมว.คลัง คาด GDP ไตรมาส 3/60 เติบโตได้ถึง 4% เดินหน้าผลักดันให้ ศก. โตตามศักยภาพ พร้อมหนุนโครงการช็อปช่วยชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/60 มีโอกาสจะเติบโตได้ราว 4% ซึ่งเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/60 ที่เติบโต 3.3% และไตรมาส 2/60 ที่เติบโต 3.7% ทั้งนี้ รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพที่ระดับ 4-5% ต่อปี
อนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/60 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พ.ย.นี้
รมว.คลัง ระบุว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ได้เริ่มออกผลในขณะนี้แล้ว โดยจะเห็นได้จากการขยายตัวเศรษฐกิจเติบโตขึ้นมาเป็นลำดับ ตั้งแต่ 0.8% เพิ่มเป็น 2.8% ในปีต่อมาเป็น 3.2% ซึ่งในปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างน้อยที่ 3.8-3.9% ซึ่งกระทรวงการคลังต้องการให้เศรษฐกิจโตได้เต็มศักยภาพ เพราะจะมีส่วนช่วยให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
"เศรษฐกิจไทยเปรียบเหมือนว่าว ถ้าโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% ก็เหมือนติดลมบน ถ้ารัฐมีการเติมมาตรการต่างๆ เข้าไป ก็ทำให้ว่าวมันลอยอยู่ได้เกิดความยั่งยืน แต่ตอนนี้ยังมีความจำเป็นต้องคอยแต่ง คอยปรับ ให้ลอยขึ้นไปติดลมบนให้ได้ก่อน"นายอภิศักดิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% โดยกำลังทบทวนข้อดี ข้อเสียของมาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งหากมีการออกมาตรการนี้ก็จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงสิ้นปี หลังจากที่ผ่านพ้นงานพระราชพิธีและการไว้ทุกข์มาตลอด 1 ปี
"โดยเฉพาะในเดือน ต.ค.ที่ประชาชนอยู่ในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้า กิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่มีการเคลื่อนไหว การมีมาตรการช็อปช่วยชาติออกมา ก็จะกระตุ้นให้เกิดความกระชุ่มกระชวย ดึงความรู้สึกของประชาชนกลับมา"นายอภิศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การออกมาตรการช็อปช่วยชาติก็มีข้อเสีย เพราะจากที่ออกมาตรการดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง จะกลายเป็นว่าเป็นมาตรการที่ต้องทำทุกปี ประชาชนก็จะรอจับจ่ายในช่วงที่ออกมาตรการ ซึ่งกระทรวงการคลังมีความกังวล และไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากการออกมาตรการในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังเห็นว่าชนชั้นกลางมีกำลังซื้อ แต่ไปจับจ่ายสินค้าจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
"มาตรการของปีนี้ ถ้ามี ก็จะประกาศและให้มีผลทันที เพื่อไม่ให้ประชาชนชะลอการใช้จ่าย" รมว.คลัง ระบุ
นายอภิศักดิ์ ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ.... ซึ่งจะมีการนำเงินฝากในบัญชีธนาคารที่ไม่มีการเคลื่อนไหว 10 ปี เข้ามาให้คลังดูแลแทนสถาบันการเงินว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลและประเทศชาติส่วนรวมจะได้ประโยชน์ ซึ่งโดยปกติบัญชีเงินฝากที่นิ่งเกิน 10 ปี ธนาคารจะตัดออกจากระบบและไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย เพราะจะมีการเสียค่าบริหารจัดการบัญชี และต้องสำรองเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก แต่หากนำมาเก็บไว้ในเงินคงคลัง ก็จะทำให้รัฐไม่ต้องกู้เงินมาก ลดภาระดอกเบี้ยให้ประเทศ
"ยืนยันว่า รัฐบาลไม่คิดจะยึดเงินประชาชน รัฐบาลมีแต่จะให้การดูแล"รมว.คลัง ระบุ