เอ็กซิมแบงก์ เผย 9 เดือนแรกของปี 60 มีกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้เสียอยู่ที่ 3.96% หรือคิดเป็นมูลค่า 3.3 พันล้าน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 407 ล้านบาท ขณะที่มีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญกว่า 7.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 225%
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ในรอบ 9 เดือนว่า EXIM BANK มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,016 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 มีเงินสินเชื่อคงค้าง 84,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10,469 ล้านบาท
ทั้งนี้ แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปี จำนวน 18,576 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 115,718 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันได้มากขึ้นทั้งทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 74,034 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs 35,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,023 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.27
ส่วนอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.96 โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพจะมีมูลค่า 3,367 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 407 ล้านบาท และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 7,683 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำนวน 3,413 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 225.07 ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรรับประกัน ให้บริการประกันการส่งออก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ส่งออกไทยในการขยายตลาดไปยังคู่ค้า หรือตลาดใหม่ ๆ และช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากคู่ค้าในต่างประเทศใน 9 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออก และประกันเสี่ยงลงทุนเท่ากับ 50,899 ล้านบาท โดย 8,804 ล้านบาท เป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 17.30 ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม รวมทั้งมียอดคงค้างของการรับประกันการส่งออก และประกันความเสี่ยงลงทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 20,478 ล้านบาท
สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 67,079 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 35,555 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม EXIM BANK ยังมีแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนใน สปป.ลาว และกัมพูชา ต่อไป
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ในรอบ 9 เดือนว่า EXIM BANK มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,016 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 มีเงินสินเชื่อคงค้าง 84,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10,469 ล้านบาท
ทั้งนี้ แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปี จำนวน 18,576 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 115,718 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันได้มากขึ้นทั้งทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 74,034 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs 35,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,023 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.27
ส่วนอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.96 โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพจะมีมูลค่า 3,367 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 407 ล้านบาท และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 7,683 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำนวน 3,413 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 225.07 ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรรับประกัน ให้บริการประกันการส่งออก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ส่งออกไทยในการขยายตลาดไปยังคู่ค้า หรือตลาดใหม่ ๆ และช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากคู่ค้าในต่างประเทศใน 9 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออก และประกันเสี่ยงลงทุนเท่ากับ 50,899 ล้านบาท โดย 8,804 ล้านบาท เป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 17.30 ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม รวมทั้งมียอดคงค้างของการรับประกันการส่งออก และประกันความเสี่ยงลงทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 20,478 ล้านบาท
สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 67,079 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 จำนวน 35,555 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม EXIM BANK ยังมีแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนใน สปป.ลาว และกัมพูชา ต่อไป