หลังจากตลาดหุ้นพุ่งทะยานมาม้วนเดียว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขยับจากระดับ 1575 จุด จนมาแตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 23 ปีที่ระดับ 1726.67 จุด กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้เวลาหยุดพัก เกิดการปรับฐานใหญ่ จนนักลงทุนรายย่อยหนีตายกันไม่ทัน
เพียงสองวันทำการ ระหว่างวัน18-19 ตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปักหัวลงอย่างรุนแรงรวม41.04 จุด ถอยมาตั้งหลักที่ระดับ1683.43 จุด
การปรับฐานใหญ่ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นผลมาจากมีข่าวร้ายหรือปัจจัยลบเข้ามากระทบ และมีข่าวในเชิงบวกด้วยซ้ำ โดยตลาดหุ้นสหรัฐสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดีดตัวกลับ ตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศยังส่งสัญญาณการฟื้นตัว ตัวเลขการส่งออกสดใส
แต่ตลาดหุ้นกลับไม่ตอบรับ และยังทรุดฮวบลงเสียอีก
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่คึกคักอย่างยืดเยื้อเป็นเวลาเดือนเศษได้ยุติลงแล้ว โดยความผันผวนรุนแรงในช่วงสองวัน เป็นการปิดรอบขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ โดยผู้ที่ปิดฉากคือ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ ด้วยการเทขายหุ้น
นักลงทุนสถาบันในประเทศ หรือกองทุนรวมเปิดฉากถล่มขายตั้งแต่วันอังคารที่ 17 ตุลาคม ขณะที่ต่างชาติร่วมผสมโรงเทขายด้วย และถล่มขายหนักในวันที่ 18-19 ตุลาคม
รวม 3 วันนักลงทุนสถาบันขายสุทธิประมาณ 6,800 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิประมาณ 5,800 ล้านบาท
การเทขายของกองทุนรวมและต่างชาติ อาจเป็นการขายทำกำไรตามปกติ เพราะราคาหุ้นขึ้นมาเร็วและแรง จูงใจให้ขายทำกำไรอยู่เหมือนกัน
แต่ทำไมกองทุนรวมในประเทศจึงใจตรงกับต่างชาติ ถล่มขายพร้อมกัน เหมือนนัดกันไว้
นักลงทุนรายย่อยเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ซื้อ โดยระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคมซื้อสุทธิรวมประมาณ 13,200 ล้านบาท กลายเป็นผู้รับเละในรอบนี้ เพราะแบกรับหุ้นต้นทุนสูงแต่เพียงผู้เดียว
ไม่มีสัญญาณเตือนการปรับฐานใหญ่รอบ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่จึงหนีไม่ทัน นอกจากนั้น ราคาหุ้นทรุดตัวลง รายย่อยกลับมองว่า วิกฤตเป็นโอกาส เป็นนาทีทองในการช้อนซื้อหุ้นราคาถูก และแห่เข้าช้อนหุ้นจน“ติดดอย”กันเป็นแถว
การปรับฐานใหญ่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า กองทุนรวมในประเทศและต่างชาติ เล่นเร็วไม่แตกต่างจากนักลงทุนรายย่อย
ได้จังหวะเหมาะ ชิงขายทำกำไรระยะสั้นเหมือนกัน โดยไม่สนข่าวดี ไม่ต้องพูดถึงปัจจัยพื้นฐาน แต่จะมองถึงโอกาสและจังหวะเวลามากกว่า
แม้จะมีข่าวดีเต็มตลาด แต่เมื่อโอกาสทำกำไรงามๆมสาถึง กองทุนรวมและต่างชาติก็ไม่ยอมพลาด ชิงจังหวะโกยกำไรไว้ก่อน
เจ็บเนื้อเจ็บตัวรอบนี้ ถือเป็นบทเรียนสำหรับนักลงทุนรายย่อย และเป็นบทเรียนที่เตือนให้ต้องตระหนักว่า ตลาดหุ้นพร้อมจะพลิกผันตลอดเวลา
ช่วงที่เต็มไปด้วยข่าวร้าย หุ้นอาจจะขึ้นก็ได้ ช่วงที่เต็มไปด้วยข่าวดี หุ้นอาจทรุดหนักได้เช่นเดียวกัน
ต่อจากนี้จะประมาทไม่ได้เสียแล้ว ต้องไม่โลภ ไม่มองโลกดีเกินไป หูตาต้องไว มีอะไรไม่น่าไว้วางใจ ลดความเสี่ยงไว้ก่อน
และอย่าผลีผลามรีบร้อนเข้าไปช้อนซื้อ เพราะอาจเสียทีกองทุนรวมและต่างชาติ ถูกรุมทุบจนอ่วมเหมือนรอบนี้
ใครจะคิดว่า ท่ามกลางข่าวดีๆ ท่ามกลางสัญญาณบรรยากาศการลงทุนที่สดใส นักลงทุนรายย่อยกำลังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กองทุนรวมและต่างชาติจะถล่มขายหุ้นตลบหลังรายย่อย
ถล่มจนรายย่อยเละคากระดาน
