xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กซิมแบงก์ หนุนผู้ประกอบการบุกตลาด CLMV ย้ำสินค้าไทยเป็นที่นิยม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอ็กซิมแบงก์ หนุนผู้ประกอบการบุกตลาด CLMV ย้ำสินค้าไทยเป็นที่นิยม พร้อมใช้บริการประกันความเสี่ยงช่วยสร้างความมั่นใจการลงทุน

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวในงานสัมมนา “EXIM BANK Overseas Investment Forum 2017” ว่า ปัจจุบัน CLMV ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดของโลกในอัตราร้อยละ 7-8 ต่อปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีประชากรรวมกันกว่า 170 ล้านคน มีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศ CLMV มีมาตรการกีดกันทางการค้าไม่มาก และภาคการผลิตอยู่ในระยะเริ่มต้นของการพัฒนา ส่งผลให้ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการค้าการลงทุน โดยมูลค่าส่งออกของไทยไป CLMV ช่วง 6 เดือนแรกปี 2560 ขยายตัวถึงร้อยละ 13.5 สูงกว่ามูลค่าส่งออกรวมที่ขยายตัวร้อยละ 7.8 ดังนั้น ผู้ประกอบการไทย จึงควรรุกเข้าตลาด CLMV เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่สินค้าไทยเป็นที่นิยม และความคุ้นเคยใกล้ชิดทางวัฒนธรรม จึงมั่นใจว่า ผู้ประกอบการไทยทำตลาดใน CLMV ได้ไม่ยาก

ทั้งนี้ แนะผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนต่างประเทศให้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละประเทศ รวมทั้งศึกษากฎระเบียบ ข้อกฎหมาย และสถานการณ์ทางการเมือง ให้ดีก่อนตัดสินใจวางแผนการลงทุน โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน และค้าขายสินค้าต่าง ๆ ด้วยบริการสินเชื่อทั้งการให้กู้ตรง และการให้กู้ร่วมกับสถาบันการเงินอื่น การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริการประกันความเสี่ยงการลงทุน บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ และการเจรจากับภาครัฐและเอกชนในต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ภาคเอกชนที่สนใจและมีศักยภาพสามารถขยายการลงทุนในต่างประเทศ

นอกจากนี้ มีบริการประกันความเสี่ยงการลงทุน “Political Risk Insurance” หรือ “Investment Insurance” เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้นักธุรกิจเข้าไปลงทุน หรือย้ายฐานการผลิต ไปต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถนำรายได้กลับประเทศไทยท่ามกลางความเสี่ยงทางการเมืองในต่างประเทศ โดยปี 2558 มูลค่าการรับประกันความเสี่ยงทางการเมืองของธุรกิจทั่วโลกสูงถึง 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 267,300 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งในแง่ของมูลค่าธุรกิจ และมูลค่าการขอรับค่าสินไหมทดแทน ในปี 2559 องค์กรรับประกันทั่วโลกมีมูลค่าธุรกิจใหม่ภายใต้การประกันความเสี่ยงทางการเมืองสูงถึง 112,812 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภูมิภาคที่มีสัดส่วนมูลค่าธุรกิจใหม่สูงที่สุดได้แก่ อาเซียน ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 17 หรือคิดเป็นมูลค่า 19,178 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมา คือ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช หรือ CIS และกลุ่มประเทศละตินอเมริกา
กำลังโหลดความคิดเห็น