xs
xsm
sm
md
lg

เอเชีย เวลท์ คาดตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ทดสอบเป้าดัชนี 60 ที่ 1,650 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล. เอเชีย เวลท์ ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับเป้าหมายที่ 1,650 จุด ระบุยังคงต้องติดตามความเสี่ยงเรื่องเกาหลีเหนือ และความเสียหายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากเฮอริเคนเออร์มา ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมแนะนำซื้อ TASCO ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาดว่า ตลาดหุ้นน่าจะบวกตามตลาดเอเชียขึ้น และตลาดหุ้นไทยนั้น ในช่วงก่อนหน้านี้ถือว่า ไม่ค่อยได้รับความสนใจในการลงทุนเท่าใดนัก (under-owned) แต่ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ SET Index ปรับตัวสูงขึ้น แม้เกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธตามที่ประกาศไว้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ความเสี่ยงและความกังวลเรื่องความขัดแย้งของเกาหลีเหนือ และสหรัฐฯ ยังคงอยู่ แต่โดยภาพรวมดีขึ้น

ด้านปัจจัยเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนตัวเลขที่ออกมาปรับตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ หนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และญี่ปุ่น ทำให้คาดการณ์ SET Index ลุ้นขึ้นทดสอบ เป้าดัชนีของ บล. เอเชีย เวลท์ ที่ 1,650 จุด กรอบดัชนีที่ระดับ 1,618-1,650 จุด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังระมัดระวัง รอดูความเสียหายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากอิทธิพลพายุเฮอริเคนเออร์มา และติดตามปัจจัยความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ต่อไป

ด้านปัจจัยในประเทศ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สองโครงการกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่ระยะที่ 2 มูลค่า 3.56 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น มูลค่า 2.7 ล้านล้านบาท

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านกลยุทธ์การลงทุน เริ่มเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ บล. เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ TASCO ของบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) เราคาดว่า TASCO จะได้รับประโยชน์จากงบประมาณประจำปี 2561 ของภาครัฐบาลที่ผ่านการอนุมัติแล้ว ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะสามารถเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 60 มีการจัดสรรงบประมาณฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานจากความเสียหายอุทกภัยภาคเหนือ และภาคอีสาน จำนวน 3,500 ล้านบาทด้วย

นอกจากนี้ ยอดขายต่างประเทศทั้งจีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม คาดว่าเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/60 ราคาน้ำมันดิบ และราคายางมะตอย ปรับตัวสูงขึ้นตามกันในช่วงไตรมาส 3/60 หลังจากที่ราคา และสเปรดยางมะตอย อ่อนแอมากในช่วงไตรมาส 2/60 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดที่ผ่านพ้นมาได้แล้ว โดยกำไรจากการดำเนินงานงวด 1H60 คิดเป็น 53% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดการณ์ไว้

เราคงประมาณการณ์กำไรจากการดำเนินงานปกติในปี 2560 ไว้ 3.3 พันล้านบาท คิดเป็น 2.12 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 14% YoY และเพิ่มเป็น 3.6 พันล้านบาท คิดเป็น 2.34 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 10% YoY เราให้ราคาเหมาะสมที่ 28.50 บาท อิงค่า PER เฉลี่ยย้อนหลังที่ 13.5 เท่า” นายวรุตม์ กล่าว

ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ TASCO แม้ว่าจะมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดสัญญาณขายรายเดือน แต่ทั้งในระยะสั้นและระยะกลางของ TASCO ยังคงมีความแข็งแกร่งจากการเกิดทั้งสัญญาณขายรายวัน และรายสัปดาห์ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TASCO มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 26.25 บาท ทั้งนี้ TASCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 22.80 บาท มีแนวต้านที่ 23.50, 23.70, และ 23.90 บาท แนวรับที่ 23.10, 22.90, และ 22.70 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น