การร้องทุกข์กล่าวโทษนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์นยี คอร์ปเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นไอเฟค อาจดูเหมือนเป็นการผ่าทางตันของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้
แต่ผู้ถือหุ้นรายยังไม่มีหลักประกันความมั่นใจว่า หุ้น “ไอเฟค” จะได้รับการฟื้นฟูและกลับเข้ามาซื้อขายใหม่ในระยะเวลาอันสั้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกล่าวโทษนายแพทย์วิชัยต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ในความผิดแสวงหาประโยชน์โดยมิควรจากการเลือกตั้งกรรมการไอเฟค ด้วยวิธีลงคะแนนเสียงสะสม ทั้งที่ทำไม่ได้ตามข้อบังคับของบริษัทฯ
การถูกดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นายแพทย์วิชัยขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน
การเลือกตั้งกรรมการ การสรรหาผู้บริหารไอเฟคแทนนายแพทย์วิชัยจะเกิดขึ้นตามมา โดยจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติ แต่ผู้ถือหุ้นจะหาใครเข้ามาเป็นกรรมการและผู้บริหารไอเฟคคนใหม่
นอกเหนือจากนายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่อีกกลุ่มแล้ว ยังมีตัวเลือกอื่นอีกหรือไม่ และถ้าต้องใช้บริการนายทวิชแล้ว ปัญหาต่างๆในไอเฟคจะได้รับการสะสางหรือไม่
โจทย์ของไอเฟคยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการบริหารของกรรมการและผู้บริหารชุดล่าสุด รวมทั้งกรรมการและผู้บริหารชุดก่อนหน้า ยังจะต้องดำเนินต่อไป ตามที่มีผู้ร้องเรียน ก.ล.ต. ซึ่งไม่รู้ว่า จะมีการกล่าวโทษกันอีกกี่คดี และใครจะโดนเชือดอีกบ้าง
ผู้ถือหุ้นรายย่อยถูกปล่อยให้เคว้งคว้างมานานแล้ว และแม้นายแพทย์วิชัย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ไอเฟคฟุบ จะถูกเขี่ยออกไป แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ยังเคว้งคว้าง
การประชุมลงมติเลือกกรรมการและผู้บริหารครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นการกำหนดชะตากรรมของผู้ถือหุ้น ที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย จะเป็นผู้ชี้ชะตาให้ตัวเองเอีกครั้ง
ถ้าผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมตัวกันได้ มีความเป็นเอกภาพ และจับเข่าหารือร่วมกันกำหนดชะตากรรมไอเฟค การแก้ปัญหาภายในคงง่ายขึ้น
แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมตัวกันไม่ติด เพราะไม่มีใครทำหน้าที่เป็นคนกลาง ประสานงานระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อย และนัดหารือวางแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ควรจะเข้ามารับบทบาทเป็นคนกลาง ประสานงานระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยก่อนหน้า แม้จะไม่แสดงบทบาทอะไรเลย นับตั้งแต่ “ไอเฟค” เกิดปัญหาเมื่อต้นปี
แต่ปัจจุบันก็ยังไม่สายที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะเข้ามาทำหน้าที่ ในฐานะองค์กรตัวแทนของนักลงทุนรายย่อย อย่าเป็นเพียงแค่องค์กรที่มีแต่ชื่อ แต่ไร้บทบาท
อย่าให้ใครตั้งคำถามซ้ำซากว่า สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยมีไว้ทำไม
ไม่มีใครเรียกร้องให้สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยไปสู้รบปรบมือกับกรรมการหรือฝ่ายบริหารบริษัทจดทะเบียน เพียงแต่ไหว้วานให้ช่วยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อยไอเฟคเท่านั้น
ช่วยนัดผู้ถือหุ้นรายย่อยไอเฟคปรึกษาหารือ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางที่จะฟื้นฟูไอเฟค เริ่มตั้งแต่การเลือกกรรมการแทนหมอวิชัย การเลือกผู้บริหารคนใหม่ และร่วมกันกำหนดนโยบายการบริหารไอเฟค
เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไอเฟคที่แท้จริง เป็นเจ้าของไอเฟคตัวจริง ไม่ใช่นายแพทย์วิชัยหรือนายทวิช
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยกำลังได้รับโอกาสอันดี ในการแสดงบทบาท โดยร่วมคลี่คลายวิกฤติในไอเฟค ซึ่งงานนี้ ถ้าสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยยังเงียบฉี่ ไม่แสดงบทบาทใดในการช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อยไอเฟค
คงหาคำตอบไม่ได้แล้วว่า สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยก่อตั้งมาทำไม มีบทบาทและหน้าที่อะไรบ้าง หรือเพียงแค่มีชื่อประดับ เพื่อทำให้ตลาดหุ้นดูดีเท่านั้น
