“คลัง” ลุยตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่สรรพากร กรณีละเว้นภาษีหุ้นชิน

“คลัง” ลุยตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่สรรพากร 3 ราย กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของ “ทักษิณ” หลังผลสอบชี้ชัดทำผิดจริง โยนปลัดคลังฟันธงตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “ผู้บริหารสรรพากร” พยายามไม่ประเมินภาษีหุ้น

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร 2-3 คน ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และผลสอบออกมาแล้วพบว่า มีมูลว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจริง

“การตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรอบนี้เป็นระดับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งมีไม่กี่คน ส่วนอดีตผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากรยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพราะต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่ามีเจตนาเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยอาจจะต้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกครั้ง” นายสมชัย กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หากคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรมีความผิดจริง ก็ต้องพิจารณาว่าจะให้ออกหรือไล่ออกจากราชการ และต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการเก็บภาษีไม่ได้จากผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับการสอบข้อเท็จจริงกรณีการละเว้นการเก็บภาษีหุ้นดังกล่าว มีนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธานตรวจสอบ โดยผลสอบจะแยกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นการสอบกรณีที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์ศาลภาษีให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ให้เสียภาษีจากการซื้อขายหุ้น โดยในส่วนนี้ผลสอบระบุชัดเจนว่า ผู้บริหารกรมสรรพากรภาค 3 มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรง รวมถึงมีระเบียบของกรมสรรพากรว่าต้องทำการยื่นอุทธรณ์ศาลในทุกกรณี

นอกจากนี้ ผลสอบยังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า ผู้บริหารกรมสรรพากรในขณะนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการไม่ยื่นอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการพิจารณาตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของปลัดกระทรวงการคลัง

สำหรับการสอบในส่วนที่สอง เป็นกรณีที่กรมสรรพากรไม่ทำการประเมินเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นจากอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร โดยผลสอบชี้ว่า ผู้บริหารกรมสรรพากรมีความพยายามที่จะไม่ประเมินภาษี ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

ด้านแหล่งข่าวกรมสรรพากรเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรมสรรพากรได้ทำการตรวจและอายัดทรัพย์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังจากไม่ยอมชำระภาษีจากการซื้อขายหุ้นเมื่อปี 2549 รวมภาษีและค่าปรับทั้งสิ้น จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท ที่กรมสรรพากรทำการประเมินเมื่อเดือน มี.ค. 2560 ทำให้ถือเป็นหนี้ภาษี ส่งผลให้กรมสรรพากรต้องทำตามระเบียบ คือ การตรวจและอายัดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมาชำระภาษีและค่าปรับให้ครบจำนวน ซึ่งมูลค่าที่ยึดทรัพย์มาได้มีมูลค่าไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น