“มาสเตอร์ แอด” เผยเตรียมเจรจาพันธมิตร VGI ร่วมปูพรมธุรกิจโฆษณา ตั้งเป้าเติบโต 25-30% พร้อมทุ่มงบลงทุน 1,200 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ (ใช้เงินลงทุนอีก 120 ล้านบาท ติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ 50 จอ) จ่อขยายการลงทุนในประเทศมาเลเซีย และกลุ่มประเทศ AEC เพิ่มคาดเห็นความชัดเจนภายในปี 2561 ชี้ผลประกอบการดี กำไรโต 37% จากไตรมาสก่อน และโตกว่า 26% จากปีก่อนหน้า ผลจากการเร่งขยายพื้นที่โฆษณาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้ 199 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อนหน้า และเติบโตขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ในส่วนของกำไรนั้น มีการปรับตัวขึ้นกว่า 37% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 26% จากปีก่อน โดยประเมินว่า รายได้ทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 25-30%
“รายได้ที่เติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของ Multi Sign บริษัทสื่อกลางแจ้งที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการในช่วงกลางปีก่อน และยอดขายสื่อที่ปรับตัวดีขึ้นจากทั้งสื่อ Billboard และ Street Furniture รวมไปถึงการพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรของสื่อ PTT Poster ที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท. จิฟฟี่ กว่า 200 ป้าย นอกจากรายได้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว บริษัทยังเริ่มรับรู้ผลจากมาตรการกระชับสัดส่วนองค์กร ตัดรายจ่ายที่เกินความจำเป็นออกไป ลดต้นทุนของสื่อบางประเภท และการเปลี่ยนแปลงโมเดลของการเช่าป้ายมาเป็นลงทุนเอง ที่บริษัทได้เริ่มดำเนินการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”
ขณะที่ในส่วนของแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (2561-2563) บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตก้าวกระโดดเท่าตัว หรือ 100% จากปัจจุบัน โดยเน้นกลยุทธ์รุกธุรกิจสื่อกลางแจ้งที่เป็นดิจิตอล เน้นตลาดต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯ จะไปตามส่วนต่อขยายของระบบคมนาคม การเปลี่ยนแปลงผังเมือง เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดสื่อกลางแจ้งให้เป็น 35% ในปี 2561 จากปัจจุบัน อยู่ที่ 30% ส่วนการซื้อกิจการเข้ามาบริหารเพิ่มเติมจากนี้จะประเมินตามสภาวะตลาด โดยจะเน้นพัฒนาป้ายที่มีอยู่ในมือให้ใช้งานได้เต็มศักยภาพ ตามความต้องการของลูกค้าต่อไป
“เรายังคงเน้นกลยุทธการขยายพื้นที่โฆษณากลางแจ้งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุมให้ได้มากที่สุด โดยได้ร่วมกับพันธมิตร คือ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ในการบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาที่มีอยู่เดิม และแสวงหาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมที่จะเข้าลงทุนธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 2561 อีกทั้งยังมองหาลู่ทางในการขยายธุรกิจสื่อโฆษณาไปยังประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศ AEC อีกด้วย”
ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในปีนี้ มองว่าจะยังคงชะลอตัว โดยครึ่งปีหลังมีปัจจัยลบที่อาจส่งผลต่ออุตสาหกรรม ได้แก่ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ช่วงไว้อาลัยเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่ายังมีโอกาสผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย จากแผนดำเนินการสร้างเครือข่ายสื่อดิจิตอลใน 20 จังหวัด ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่มิถุนายน 2560 และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเฟส 2 ช่วงปลายปีอีก 30 จังหวัด เน้นพัฒนาจุดติดตั้ง โดยได้มีการอนุมัติงบเพิ่มเติมอีก 120 ล้านบาท ในการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ตามจุดทำเลโฆษณาสำคัญในทำเลไพร์มย่านธุรกิจทั่วประเทศที่บริษัทมีทำเลอยู่แล้ว ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ประมาณ 300-500 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบภาพรวมของบริษัท เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E เพียง 0.6 เท่า
“ต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโตอีกมากดูได้จากความเจริญที่กระจายตัวออกต่างจังหวัด อีกทั้งปัจจุบัน เม็ดเงินสื่อโฆษณาส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สัดส่วนราว 70% แต่โครงสร้างจำนวนประชากรและรายได้ประชากรของประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด บริษัทเริ่มเห็นทิศทางการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินโฆษณาไปต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องนโยบายที่จะเน้นขยายสื่อไปตามต่างจังหวัด หลังจากการเข้าซื้อกิจการของมัลติไซน์ และโคแมส สร้างข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่เป็นแลนด์แบงก์อยู่ในมือ”
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกปีนี้ในอัตรา 0.018 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดปิดสมุดพักการโอนหุ้นสำหรับผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 17 สิงหาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2560
ขณะที่ในส่วนของมุมมองการลงทุนจากนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ได้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ราคาเป้าหมาย 12 เดือน ที่ราคา 1.92 บาทต่อหุ้น
