xs
xsm
sm
md
lg

“ออริจิ้น” ดึง “โนมูระ” ร่วมทุนลุยคอนโดหวังต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พีระพงศ์ จรูญเอก
“ออริจิ้น” ดึง “โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์” ร่วมทุน 4 บริษัทย่อย ต่อยอดพัฒนาโครงการใหม่ เผยปรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ พร้อมประกาศปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็น 9,000 ล้านบาท จากเป้าเดิม 6,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป้ายอดขายเป็น 14,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่วางไว้ต้นปี 13,000 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทได้ประกาศร่วมทุนพัฒนาโครงการใหม่กับ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ขายหุ้น 4 บริษัทย่อยให้กับให้บริษัท โนมูระฯ โดยได้ลงนามสัญญาร่วมทุนเมื่อวันที่ 30 ก.ค. โดยหุ้นของ 4 บริษัทย่อย ประกอบด้วย 1. หุ้นสามัญภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนของออริจิ้น ไพร์ม 2 สัดส่วน 49% มูลค่า 400.54 ล้านบาท สำหรับ บริษัท ออริจิ้น ไพร์ม 2 มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 1 โครงการ คือ โครงการ KnightsBridge Prime On Nut สุขุมวิท 77 มูลค่า 2,500 ล้านบาท

2. หุ้นสามัญภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ออริจิ้น รามคำแหง ในสัดส่วน 49% มูลค่ารวม 311.39 ล้านบาท โดย บริษัท ออริจิ้น รามคาแหง มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 1 โครงการ คือ โครงการ KnightsBridge Collage Ramkhamhaeng รามคำแหง มูลค่า 2,000 ล้านบาท 3. หุ้นสามัญของบริษัท ออริจิ้น สเฟียร์ จำกัด สัดส่วน 49% มูลค่า 32.81 ล้านบาท โดย ออริจิ้น สเฟียร์ฯ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ KnightsBridge Prime Ratchayothin พหลโยธินมูลค่า 1,600 ล้านบาท และ 4. หุ้นบริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล จำกัด สัดส่วน 49% มูลค่า 44,22 ล้านบาท

“การเข้ามาถือหุ้น 4 บริษัทย่อยของออริจิ้นฯ ทำให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทออริจิ้นฯ และโนมูระฯ มีโครงการร่วมทุนที่อยู่ระหว่างการขาย และก่อสร้างในปีนี้ทันที 3 โครงการ และพร้อมที่จะพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ร่วมกันในทันที”

ทั้งนี้ การร่วมทุนกับโนมูระฯ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดที่อยู่อาศัยสูงเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และมีแบรนด์อาคารชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น เป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขัน และการขยายการพัฒนาโครงการ รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับ ออริจิ้นฯ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหา และยังเปิดโอกาสสานต่อความร่วมมือทางธุรกิจอื่น ๆ ในอนาคต รวมทั้งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และการร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาธุรกิจ โครงการที่อยู่อาศัย และธุรกิจบริการในอนาคต

“ในอนาคตบริษัทมีโอกาสที่จะร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอาคารชุด และในธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการอาคารสำนักงาน โรงแรม อพาร์ตเมนต์ พื้นที่ค้าปลีก คลังสินค้า และธุรกิจลอจิสติกส์”

เพิ่มเป้ารายได้-ยอดขาย-โครงการเปิดใหม่

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับเพิ่มยอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านบาท จากเดิมที่ต้นปีวางไว้ 13,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับเพิ่มเป้ารายได้เป็นขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ว่า ทั้งปีจะมีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน มิ.ย. นี้ ออริจิ้นฯ มียอดขายรอโอน หรือแบ็กล็อคในมือแล้ว 25,285 ล้านบาท

นอกจากการปรับเพิ่มเป้ารายได้และยอดขายในปีนี้แล้ว บริษัทยังได้ปรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 โครงการ จากเดิมที่มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้ ออริจิ้นจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 12 โครงการ และมีมูลค่าโครงการเปิดใหม่รวม 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 11 โครงการ และโครงการบ้านแนวราบ ซึ่งเป็นโครงการแรกของ ORI อีก 1 โครงการ โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังรวม 8 โครงการ



กำลังโหลดความคิดเห็น