ฮาบิแทท กรุ๊ป มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระดับพรีเมียมสดใส เน้นกลุ่มเพื่อการลงทุน ในพัทยา และใจกลางกรุงเทพฯ
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้ม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากนโยบายด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐบาลที่มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาเดินหน้าการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ ที่มีแนวโน้มจะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น จะกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่น่าจับตามองต่อไป โดยทำเลที่น่าสนใจ คือ ย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร (CBD) เช่น สุขุมวิท ร่วมฤดี ที่ยังขยายตัวได้ดี โดยเจาะกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งมีผลตอบแทนจากค่าเช่าในอัตราร้อยละ 4-5 แม้ราคาที่ดินต่อตารางเมตรจะปรับขึ้นไปถึง 200,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร แต่มีแนวโน้มราคาที่ดินยังมีโอกาสปรับขึ้นไปอีก ขณะที่ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
นอกจากนี้ ยังมองว่า พัทยา ยังเป็นทำเลที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพมาก เนื่องจากจำนวนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2559 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือนละกว่าร้อยละ 78 และเป็นทำเลที่มีนักท่องเที่ยวเต็มตลอดทุกฤดูกาล ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของรัฐ และการลงทุนในโครงการเมกกะโปรเจกต์ เช่น สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือสัตหีบ มอเตอร์เวย์สายใหม่สู่ระยอง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนจำนวนนักท่องเที่ยว และนักลงทุน ให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินในเมืองพัทยาพุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะในทำเลวงศ์อมาตย์ และนาจอมเทียน ซึ่งเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายให้ความสนใจ และกำลังมีศูนย์การค้าและโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น ดังนั้น ทางฮาบิแทท กรุ๊ป ยังคงปักหมุดที่ทำเลพัทยา 1 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 192 ยูนิต มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท คาดว่าเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ ในทำเลร่วมฤดีมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจจะเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้ม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากนโยบายด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐบาลที่มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาเดินหน้าการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ ที่มีแนวโน้มจะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น จะกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่น่าจับตามองต่อไป โดยทำเลที่น่าสนใจ คือ ย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร (CBD) เช่น สุขุมวิท ร่วมฤดี ที่ยังขยายตัวได้ดี โดยเจาะกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งมีผลตอบแทนจากค่าเช่าในอัตราร้อยละ 4-5 แม้ราคาที่ดินต่อตารางเมตรจะปรับขึ้นไปถึง 200,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร แต่มีแนวโน้มราคาที่ดินยังมีโอกาสปรับขึ้นไปอีก ขณะที่ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
นอกจากนี้ ยังมองว่า พัทยา ยังเป็นทำเลที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพมาก เนื่องจากจำนวนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2559 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือนละกว่าร้อยละ 78 และเป็นทำเลที่มีนักท่องเที่ยวเต็มตลอดทุกฤดูกาล ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของรัฐ และการลงทุนในโครงการเมกกะโปรเจกต์ เช่น สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือสัตหีบ มอเตอร์เวย์สายใหม่สู่ระยอง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนจำนวนนักท่องเที่ยว และนักลงทุน ให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินในเมืองพัทยาพุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะในทำเลวงศ์อมาตย์ และนาจอมเทียน ซึ่งเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายให้ความสนใจ และกำลังมีศูนย์การค้าและโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น ดังนั้น ทางฮาบิแทท กรุ๊ป ยังคงปักหมุดที่ทำเลพัทยา 1 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 192 ยูนิต มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท คาดว่าเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ ในทำเลร่วมฤดีมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจจะเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ