บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 60 ซึ่งมี นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร เป็นประธานฯ มีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 250 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 3 ราย
ประกอบด้วยเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน 2 ราย คือ นายเจิง กั๋ว จั่น จำนวน 120 ล้านหุ้น นางเฉิน โย่ว ฮุ่ย จำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และนักธุรกิจชาวไทย 1 ราย คือ นายเกษม อาภรณ์ทิพย์ จำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.00 บาท หากเพิ่มทุนสำเร็จจะได้รับเงินประมาณ 500 ล้านบาท
การระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจของบริษัทในปี 60 ที่มีแผนพัฒนาโครงการแห่งใหม่ไว้ทดแทนโครงการปัจจุบันที่มีพื้นที่ขายลดเหลือน้อยลง เช่น โครงการ 15 สุขุมวิท เรสซิเด้นซ์ และ โครงการ เดอะ ฮาเบอร์ เรสซิเดนเซส ซึ่งได้ลงนามในสัญญาขายโครงการให้แก่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ และรับชำระเงินทั้งหมดในช่วงต้นปี 61 ดังนั้น การลงทุนในโครงการใหม่จะทำให้ TFD มีรายได้และกำไรจากธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
หลังจากได้รับเงินเพิ่มทุนจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุน และในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และลดภาระการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ การเพิ่มทุนในครั้งนี้ยังช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลงได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตลอดจนทำให้ฐานะการเงินของ TFD มีความมั่นคงมากขึ้น และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
ประกอบด้วยเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน 2 ราย คือ นายเจิง กั๋ว จั่น จำนวน 120 ล้านหุ้น นางเฉิน โย่ว ฮุ่ย จำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และนักธุรกิจชาวไทย 1 ราย คือ นายเกษม อาภรณ์ทิพย์ จำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.00 บาท หากเพิ่มทุนสำเร็จจะได้รับเงินประมาณ 500 ล้านบาท
การระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจของบริษัทในปี 60 ที่มีแผนพัฒนาโครงการแห่งใหม่ไว้ทดแทนโครงการปัจจุบันที่มีพื้นที่ขายลดเหลือน้อยลง เช่น โครงการ 15 สุขุมวิท เรสซิเด้นซ์ และ โครงการ เดอะ ฮาเบอร์ เรสซิเดนเซส ซึ่งได้ลงนามในสัญญาขายโครงการให้แก่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ และรับชำระเงินทั้งหมดในช่วงต้นปี 61 ดังนั้น การลงทุนในโครงการใหม่จะทำให้ TFD มีรายได้และกำไรจากธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
หลังจากได้รับเงินเพิ่มทุนจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุน และในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และลดภาระการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ การเพิ่มทุนในครั้งนี้ยังช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลงได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตลอดจนทำให้ฐานะการเงินของ TFD มีความมั่นคงมากขึ้น และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
