“ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น” คุยโวเป้ารายได้ปีไก่ทอง จะเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 20% หรือไม่น้อยกว่า 5,800 ล้านบาท เผยเตรียมเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐ จ่อประมูลงานโทรคมนาคมภาครัฐ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิ งวดบัญชีปี 2560 จะเติบโตเป็นประวัติการณ์ทำสถิติใหม่ ไม่น้อยกว่า 15-20% หรือประมาณ 5,700-5,800 ล้านบาท เทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 5,432.39 ล้านบาท โดยเป็นไปตามงานภาครัฐที่เร่งขยายงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มากขึ้น ทำให้มีงานประมูลต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาส 2/2560 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการเข้าประมูลงานโทรคมนาคมภาครัฐเป็นหลัก ได้แก่ งานโครงข่ายพื้นฐานของ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) หรือ TOT, งานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ) ตลอดจนงานซึ่งถือเป็นนวัตกรรม และความภาคภูมิใจของบริษัท คือ กำไลติดตามนักโทษของกรมคุมประพฤติ โดยมูลค่างานที่จะเข้าร่วมประมูลทั้งหมดกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชนะได้งานในการประมูลไม่น้อยกว่า 50%
“ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รับรู้แล้วประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เกือบทั้งหมดภายในปีนี้ โดยงานขนาดใหญ่ที่ระรับรู้ จะเป็นงานปรับปรุง และเพิ่มเติมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนที่เหลือจะเป็นงานโครงข่ายโทรคมนาคมของเอกชน ได้แก่ ของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, และ ของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC มูลค่ารวมกว่า 50-60 ล้านบาท”
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอานิสงส์จาก บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART ที่ FORTH เป็นบริษัทแม่ ถือหุ้นในสัดส่วน 46% โดย FSMART มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องตามจำนวนตู้เติบเงิน “บุญเติม” ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง และมูลค่าการเติมเงินผ่านตู้ที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มเติมเข้ามา
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการเจรจากับร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจำหน่ายตู้เติมเงิน โดยคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 3/2560 ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าจำหน่ายตู้เติมเงินในปีนี้ให้ได้อย่างน้อย 20,000 ตู้ หรือคิดเป็นยอดขายที่ประมาณ 600-700 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการศึกษาแผนการลงทุนตู้เติมเงินไปยังประเทศพม่า มีการทดลองตลาดในการติดตั้งเพื่อให้บริการบ้างแล้ว
“ประเมินว่าครึ่งปีหลังจะมีงานเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการเติบโตดีกว่าปีก่อน โดยปีนี้ธุรกิจ EMS เราตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-7% ส่วนตู้เติมเงินบุญเติม ตั้งเป้ารายได้โต 25-30% ซึ่งเราก็เตรียมเข้าร่วมประมูลงานโทรคมนาคมภาครัฐในปีนี้ โดยคาดว่า จะได้งานไม่น้อยกว่า 50% ส่วนงบลงทุนในการดำเนินธุรกิจก็วางไว้ที่ 600-700 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการขยายตู้เติมเงินบุญเติม และส่วนงานที่เกี่ยวเนื่องกัน”