xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” ฟันกำไรเพิ่ม 19.3% ไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจผันผวนแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU
“ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” เผยกำไรไตรมาสแรกของปี 2560 เติบโตขึ้นกว่า 19.3% หรือกว่า 1,469 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ชี้การเข้าลงทุนในแบรนด์ร้านอาหาร “เรด ล็อบสเตอร์” ส่งผลต่อรายได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งได้เปรียบอัตราแลกเปลี่ยนหนุน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ กล่าวถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2560 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 19.3 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 1,469 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเรด ล็อบสเตอร์ มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของผลกำไรบริษัท รวมทั้งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ในส่วนของยอดขายรวม บริษัทมียอดขายเท่ากับ 31,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งกำไรขั้นต้นลดลง 13.3 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน เท่ากับ 4,330 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 13.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1 ปี 2559 ที่ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจปลาทูน่า และกุ้ง รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นอีกด้วย

ขณะที่ยอดขายจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และแช่เย็นของบริษัท เพิ่มขึ้น 12,914 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่าความต้องการในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (ambient) ในทวีปยุโรป จะซบเซาก็ตาม สำหรับยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ยังคงเติบโตที่ 17.4 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว อยู่ที่ 4,444 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆ และการรุกทำตลาดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของยอดขายจากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของไทยยูเนี่ยน ยังคงอยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรก ที่เหลือมาจากธุรกิจการรับจ้างผลิต และธุรกิจบริการทางด้านอาหาร สำหรับยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกา ยังคงมีสัดส่วนที่มากที่สุดเท่ากับ 40.3 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมดในไตรมาสแรก ปี 2560 ตามด้วยตลาดยุโรปเป็นอันดับรองลงมา ด้วยสัดส่วนยอดขายเท่ากับ 31 เปอร์เซ็นต์ ตลาดในประเทศไทย มีสัดส่วนเท่ากับ 8.1 เปอร์เซ็นต์ ตลาดญี่ปุ่นมีสัดส่วนเท่ากับ 6.4 เปอร์เซ็นต์ และตลาดอื่นๆ มีสัดส่วนเท่ากับ 14.2 เปอร์เซ็นต์

“เรามีความพอใจในผลกำไรที่เติบโตนี้อย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะคงต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ และสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในหลายตลาดอยู่ ในส่วนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเรด ล็อบสเตอร์ นั้น ได้ส่งผลเชิงบวกให้แก่บริษัท และเรากำลังร่วมมือกันในการริเริ่มการดำเนินงานต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของเรามีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต”

ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศกลยุทธ์ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ปลาทูน่าของบริษัทต้องมาจากการจัดหาอย่างยั่งยืนทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายทำให้ได้อย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2563 และส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใหม่ด้านปลาทูน่านี้ ไทยยูเนี่ยน กำลังลงทุนมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ ในโครงการริเริ่มต่างๆ เกี่ยวกับความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาการประมง 11 โครงการทั่วโลก และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ที่เรียกว่า “SeaChange®” ไทยยูเนี่ยนสนับสนุนเงินจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาการประมงในประเทศอินโดนีเซีย ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายงานเพื่อความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ปี 2558 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ในรายงาน 100 บริษัทธุรกิจอาหารทะเลที่ได้มาตรฐานความโปร่งใส (Top 100 Seafood Firms’ Transparency Benchmark) ซึ่งจัดอันดับโดย Seafood Intelligence หน่วยงานที่ให้บริการข่าวทั่วโลกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเล และประเมินข้อมูลด้านความยั่งยืน และระดับความโปร่งใสของอุตสาหกรรม ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 5 อันดับแรกของบริษัทที่ทำประมงด้วยการจับปลาแบบธรรมชาติทั้งหมดทั่วโลก และอยู่ใน 3 อันดับแรกของบริษัทที่จับปลาทูน่าแบบธรรมชาติทั่วโลกอีกด้วย

นอกจากนั้น ไทยยูเนี่ยนได้เป็นพันธมิตรกับ Clinton Climate Initiative ซึ่งดำเนินโครงการก๊าซชีวภาพ และการจัดการน้ำเสีย ที่โรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋องของบริษัท อินเดียนโอเชี่ยนทูน่า (Indian Ocean Tuna) ในประเทศเซเชลส์ (Seychelles) โดยโครงการดังกล่าวจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดต้นทุนด้านพลังงาน ขณะเดียวกัน จะผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาด และการจัดการคุณภาพน้ำทิ้งที่ดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น