xs
xsm
sm
md
lg

เครือ “ทีซีซี กรุ๊ป” ประกาศรุกธุรกิจโรงแรมครั้งใหญ่ ลุย 5 ปี ผุดอีก 50 โรงแรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นาย นิชันท์ โกรเว่อร์
บริษัท แอสเสท เวิรด์ฯ ธุรกิจโรงแรมของเจ้าสัวเจริญ ประกาศรุกครั้งใหญ่ ตอบรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว และประชุมสัมนา หว่านเงินลงทุน 5 ปี เปิด 50 โรงแรมในไทย วางเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมปี 60 เติบโต 30% สวนกระแสตลาดที่คาดโตต่ำกว่า 10% พร้อมเช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯ เปิดโฉมโรงแรมแห่งใหม่ “เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก” และตั้งเป้าเปิดครบ 5 คอลเลกชันภายใน 3 ปีนี้

นาย นิชันท์ โกรเว่อร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือทีซีซีกรุ๊ป (ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) ซึ่งถือเป็นกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านบริการ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค กล่าวถึงทิศทางการลงทุนของกลุ่มว่า ขณะนี้ทางทีซีซี กรุ๊ป กำลังปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อรองรับการเติบโต และแผนการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าภายในสิ้นปีกระบวนการปรับโครงสร้างจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนของทีซีซี กรุ๊ป อย่างไรก็ตาม ตามแผนของการรุกธุรกิจโรงแรมแล้วได้วางเป้าภายใน 5 ปี (2560-2564) จะเพิ่มเงินลงทุนในการเปิด 50 โรงแรมกระจายในประเทศไทย โดยให้ครอบคลุมในทุกๆ เซกเมนต์

เป้าของเรา คือ สร้างการเติบโตของโรงแรมให้เร็วที่สุด การสร้างสินค้าให้มีความโดดเด่น รับกับการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งผลที่ตามมา คือ เรื่องของรายได้ที่โตตาม ทั้งนี้ ทางบริษัทอยู่ระหว่างการปรับภาพลักษณ์ และรีโนเวตในส่วน 23 โรงแรมที่บริหารเอง ซึ่งไม่สามารถระบุเป็นงบประมาณที่แน่ชัดได้ แต่จะมีการแบ่งแยกเซกเมนต์ที่ตรงกลุ่มลูกค้า” นายนิชันท์ กล่าว

ปัจจุบัน โรงแรมที่อยู่ภายใต้บริษัท แอสเสท เวิรด์ฯ 46 แห่ง ซึ่งมีการบริหารโดยเชนระดับโลก 20 โรงแรม และโรงแรมที่บริหารเองอีก 26 แห่ง จำนวนโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหารในประเทศไทย 38 โรงแรม มีจำนวนห้องพัก 6,000 ห้องจากโรงแรม 46 แห่งอยู่ในประเทศไทย โดยที่เหลือกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ลาว กัมพูชา และจีน ทั้งนี้ ในปี 60 มีแผนเปิดเพิ่ม 3 โรงแรม แยกเป็นโรงแรมใหม่เชนจาก Marriott International จำนวน 1 แห่ง และอีก 2 แห่งที่บริหารเอง ได้แก่ โรงแรม “เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก” เปิดดำเนินการแล้ว และโครงการที่กำลังปรับปรุงใน จ.เชียงใหม่

โดยผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 30% (ปี 59 อยู่ที่ 13%) สูงกว่าตลาดโรงแรมที่คาดว่า จะเติบโตไม่ถึง 10% ในขณะที่อุตสาหกรรม และโครงการที่อยู่อาศัยในปีนี้เติบโตลดลง

สำหรับโครงการ เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก เป็นโรงแรมที่ปรับปรุงเมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 38 ห้อง เปิดให้บริการ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าหลังผ่านช่วง 3 เดือนของการจัดโปรโมชัน อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 75% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 60% และคนไทย 40% สัดส่วนรายได้ของโรงแรมเดอะ ระวีกัลยา มาจากหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) 35%

ประวัติของที่ดินที่จัดตั้งโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก ตั้งอยู่ที่ 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. จุดเด่นถือเป็นเรือนเก่าที่สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เดิมเป็นเรือนพักอาศัยของพระนมของพระองค์ท่าน เรือนพักอาศัยนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาบริเวณวังเทเวศร์ ประกอบด้วยห้องพัก 38 ห้อง ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพิ่มความงดงามขึ้นด้วยงานฝีมือจิตรกรรมบนผนัง และงานเขียนกาพย์กลอนที่มีชื่อเสียงของอดีตจนถึงรัชสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของไทย และเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านบทกวีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งสยามอันประเมินค่าไม่ได้ บนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร ร่มรื่นด้วยหลายหลายพันธุ์ไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไทรอายุกว่า 120 ปี นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นเรื่อง “เวลล์เนส” (Wellness) หนึ่งในแนวคิดสำคัญของโรงแรม เพื่อให้แขกผู้พักอาศัยสัมผัสประสบการณ์ของการผ่อนคลาย และดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร โรงแรมจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเป็นพิเศษ รวมถึงสวนออร์แกนิก ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเลือกวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารได้ด้วยตัวเอง สระว่ายน้ำกลางสวน และบาร์ริมสระเสิร์ฟเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แขกจึงสามารถพักผ่อนใต้ร่มไม้ในระหว่างวัน หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ท่านกลางสวนเขียวขจีใจกลางเมืองที่หลบเร้นจากความวุ่นวายภายนอก”

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ และส่งมอบคุณภาพการบริการที่ดีกว่าแก่ทั้งนักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติให้ทุกโรงแรมในกลุ่มแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น เป็นจุดหมายปลายทาง หรือเดสติเนชันใหม่ทั้งในประเทศ และนานาชาติ โดยเฉพาะโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน และท่องเที่ยวเอง ซึ่งต้องการดื่มด่ำกับวิถีชีวิตแบบไทยๆ และความสงบที่หาได้ยากใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนเองในลักษณะแบบนี้มากขึ้น”

สำหรับโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก ประกอบด้วยห้องพัก 38 ห้อง ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมแห่งสยาม ผสมผสานการออกแบบระหว่างบรรยากาศแบบวิถีไทยดั้งเดิมในสมัยรัชกาลที่ 6 และความสะดวกสบาย ผ่อนคลายแบบร่วมสมัย ตกแต่งด้วยองค์ประกอบทางศิลปะอันละเอียดอ่อน เพื่อให้แขกสัมผัสได้ถึงบรรยากาศการพักผ่อนอันสงบอบอุ่น และซึมซับศิลปวัฒนธรรมจากโคลงกลอนที่เขียนอย่างประณีตด้วยฝีมือช่างไทยให้แต่ละห้องมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โรงแรมแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอาคารหลัก กลุ่มอาคารด้านหน้าทั้ง 20 ห้อง ตั้งอยู่ใน ซิตี้ วิง (City Wing) ขณะที่อีก 18 ห้อง ตั้งอยู่ในบริเวณกลุ่มอาคารในสวนที่เรียกว่า การ์เด้น วิง (Garden Wing) ซึ่งกลุ่มอาคารนี้เคยเป็นเรือนพักอาศัยหลักของพระนมของรัชกาลที่ 6 ห้องพักตั้งอยู่ในชั้น 1 และ 2 สำหรับผู้พักที่ต้องการความสงบท่ามกลางสวนอันร่มรื่น “เวลล์เนส” (Wellness) คือ หนึ่งในแนวคิดสำคัญของโรงแรม เพื่อให้แขกของโรงแรมสัมผัสประสบการณ์ของการผ่อนคลาย และดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร จึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเป็นพิเศษ รวมถึงสวนออร์แกนิก ซึ่งสามารถเลือกวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารโดยเชฟได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ อิมพีเรียล สปา (Imperial Spa) ช่วยให้แขกของโรงแรมผ่อนคลายกับวิถีการนวดแผนโบราณแบบไทยแท้ โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการถ่ายทอดจากสถาบันสุขภาพโพธาลัย ซึ่งสั่งสมองค์ความรู้จากวัดโพธิ์จากรุ่นสู่รุ่น

โรงแรมยังให้ความสำคัญกับด้านอาหาร (Cuisine) เพื่อให้ย่านประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายใหม่ของนักเดินทางที่ต้องการเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ของรสชาติอาหารทั้งไทยดั้งเดิม และอาหารยุโรป ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีการรับประทานอาหารในสมัยรัชกาลที่ 6 ห้องอาหาร เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง (The Raweekanlaya Dining) ได้รับการสร้างสรรค์เมนูอาหารอย่างพิถีพิถัน โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้รับประทาน และความยั่งยืน วัตถุดิบในการปรุงอาหารจึงได้รับการคัดสรรเพื่อให้แน่ใจว่า มีคุณประโยชน์ และเป็นวัตุดิบจากธรรมชาติอย่างแท้จริง เช่น ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ เกลือสมุทร และวัตถุดิบออร์แกนิกตามฤดูกาล ซึ่งล้วนผลิตจากกลุ่มเกษตรท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมกำลังการผลิตในชุมชน ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่างๆ ยังมีที่มาจากผู้ผลิตชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก.


กำลังโหลดความคิดเห็น