ช่วงนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประกาศเพิ่มทุนกันถี่ยิบ เหมือนช่วงชิงกันสูบเงินจากตลาดหุ้น โดยพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคมเพียงวันเดียว มีบริษัทจดทะเบียนถึง 4 แห่ง ประกาศเพิ่มทุนพร้อมกัน
บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุนประกอบด้วย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) บริษัท ที.ซี.เจ.เอเชีย จำกัด(มหาชน) บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด(มหาชน)หรือหุ้น ”เอฟซี” ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ
สูตรการเพิ่มทุนของแต่ละบริษัทมีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยออกหุ้นใหม่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม พ่วงใบสำคัญแสดงสิทธิ์จองซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แร้นท์ที่แจกฟรีเพื่อจูงใจ แต่เงื่อนไขการเพิ่มทุนที่แตกต่างออกไปคือ การเพิ่มทุนของหุ้นเอฟซี
หุ้นเอฟซีไม่ได้เป็นหุ้นที่โดดเด่น ไม่น่าลงทุนด้วยซ้ำ เพราะผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี จนไม่มีค่าพี/อี เรโช ไม่มีเงินปันผลตอบแทน จึงไม่มีข้อมูลพื้นฐานที่สามารถคำนวณความเหมาะสมของราคาหุ้นได้
และหุ้นตัวนี้ก็ระดมทุนหลายระรอก ระหว่างปี 2557-2558 ทั้งการอออกหุ้นใหม่ขายบุคคลในวงจำกัด(พีพี)หรือขายผู้ถือหุ้นเดิม
“เอฟซี” ระดมทุนไปเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพิ่มทุนไปหลายรอบ ผลประกอบการก็ยังไม่ฟื้น แต่คณะกรรมการบริษัทประกาศเพิ่มทุนอีกจนได้ โดยจะนำหุ้นใหม่จำนวน 391,861,335 หุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 55 สตางค์
และนำหุ้นใหม่จำนวน 62,000,000 หุ้น เสนอขายบุคคลในวงจำกัด ในราคาหุ้นละ 1 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม
เงื่อนไขที่น่าสนใจสำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้คือ การกำหนดระยะเวลา ให้บุคคลในวงจำกัด ชำระค่าหุ้นก่อนนำหุ้นขายผู้ถือหุ้นเดิม
บุคคลในวงจำกัด ต้องชำระค่าหุ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2560 ส่วนผู้ถือหุ้นเดิม จะชำระค่าหุ้นระหว่างวันที่30 มีนาคมถึง 5 เมษายน 2560
ผู้ถือหุ้นเดิมมีเวลาตัดสินใจว่า จะยอมควักเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกหรือไม่ มีเวลาที่จะรอดูว่า หุ้นจำนวน 62 ล้านหุ้น ที่เสนอขายบุคคลในวงจำกัดราคา 1 บาทนั้น จะขายได้หรือไม่
การออกหุ้นใหม่เสนอขายพีพีควบคู่กับการเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม เคยมีปัญหามาแล้ว โดยผู้ถือหุ้นเดิมชำระค่าหุ้นเสร็จสิ้น แต่หุ้นพีพียังไม่มีการชำระ และนำไปสู่ข้อสงสัย การใช้เงื่อนไขขายหุ้นพีพี เพื่อหลอกล่อให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยซื้อหุ้นเพิ่มทุน
เงื่อนไขการเสนอขายหุ้นของ “เอฟซี” ถือเป็นสูตรใหม่ของการเพิ่มทุนและให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นเดิมมากขึ้น เพราะจะมีข้อมูลที่นำมาพิจารณาตัดสินใจว่า ควรซื้อหรือไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน
ถ้าหุ้นพีพีขายไม่ออก ผู้ถือหุ้นเดิมตัดสินใจได้ทันที ไม่ควรควักเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน
และแม้หุ้นพีพีจำนวน 62 ล้านหุ้น จะขายได้หมดเกลี้ยง ก็ไม่ใช่บทสรุปว่า ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดจะต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามไปด้วย
เพราะ ”เอฟซี” เพิ่มทุนไปหลายรอบแล้ว แต่ผลดำเนินงานยังไม่ดี เงินที่นักลงทุนใส่เข้าไป ไม่ก่อดอกออกผล และไม่มีหลักประกันว่า การระดมทุนรอบใหม่ ฝ่ายบริหารบริษัทฯจะนำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนคืนกลับผู้ถือหุ้นได้
นอกจากนั้นราคาหุ้นเอฟซีบนกระดาน ยังเคลื่อนไหวอย่างน่าหวาดเสียว ยืนอยู่แถว 60 สตางค์ หมิ่นเหม่ที่จะไหลลงมายืนในระดับราคาเดียวกันกับหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งหากถอยลงมายืนแถว 55 สตางค์หรือต่ำกว่า ก็ไม่มีแรงจูงใจซื้อหุ้นเพิ่มทุน
สูตรการเพิ่มทุน ”เอฟซี” แม้กำหนดเงื่อนไขที่ยุติธรรมต่อผู้ถือหุ้นเดิม แต่ผู้ถือหุ้นเดิมจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน ”เอฟซี” หรือไม่ เป็นอีกประเด็น
หุ้นพีพี แม้ขายแพง แต่อาจขายหมด ส่วนหุ้นใหม่ที่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม แม้ขายถูกกว่า แต่อาจขายไม่ออกก็ได้
ใครจะไปรู้ใจผู้ถือหุ้นเดิม ”เอฟซี” อาจเข็ดแล้วกับการเพิ่มทุนก็ได้