ชาญอิสสระชะลอแผนลงทุนโครงการใหม่ หันขยายธุรกิจโรงแรม

ชาญอิสสระ ชะลอแผนลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ เหตุเศรษฐกิจยังชะลอตัวเน้นเปิดเฟสใหม่ 3-4 โครงการ หันขยายธุรกิจโรงแรมตั้งเป้าเพิ่มขนาดกองทรัสต์ SRIPANWA แตะหมื่นล้านภายใน 5 ปีจ่อซื้อโรงแรมในอังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศสงบลงทุน 1-2 พันล้านบาท/แห่ง

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ CI เปิดเผยว่า แผนการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในปี 60 ตั้งเป้าเปิด 3-4 โครงการมูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายเฟสเพิ่มจากโครงการเดิม ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวบางนาและพระราม 9 เฟส 2, โครงการคอนโดมิเนียมเชียงใหม่ เฟส 2 และโครงการคอนโดมิเนียมทิวทะเล เฟส 4 เนื่องจากมองว่า ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตาม รวมถึงปัญหาซัพพลายด์ล้นตลาดในบางทำเล ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกรายมีความระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ตั้งงบประมาณจำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในอนาคต ในส่วนของทำเลในต่างจังหวัดจะยังคงเน้นจังหวัดที่บริษัทพัฒนาโครงการอยู่แล้ว เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และเพชรบุรี เป็นต้น และเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาโครงการอาคารพักอาศัยแนวสูงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน

นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญต่อการลงทุนขยายธุรกิจโรงแรมเพิ่ม เนื่องจากเชื่อว่ามีศักยภาพและสามารถเติบโตได้ในอนาคต โดยจะมีทั้งในรูปแบบลงทุนพัฒนาใหม่ หรือซื้อโรงแรมมีปรับปรุงใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเพื่อขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เพื่อให้กอง REIT ดังกล่าวมีขนาดใหญ่และน่าสนใจสำหรับนักลงทุน

โดยขณะนี้อยู่การศึกษาการซื้อโรงแรมอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เนื่องจากในปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ในยุโรปลดลงค่อนข้างมาก จากภาวะเศรษฐกิจยุโรปตกต่ำซึ่งเป็นผลกระทบจาก BREXIT นอกจากนี้ยังทำให้เงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาก ทำให้มีโอกาสในการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท/แห่ง หลังจากนั้นจะนำมาขายเข้ากองทรัสต์ SRIPANWA โดยตั้งเป้าให้มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท โดยในปี 61 บริษัทเตรียมนำโรงแรม BA BA Beach Club ภูเก็ต และหัวหิน มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท ขายเข้ากอง SRIPANWA ซึ่งจะทำให้มูลค่ากองเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท

ส่วนการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยร่วมกับบมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) เพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ภาครัฐ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และอยู่ในขั้นตอนศึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของการลงทุนภายในปีนี้โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายการลงทุนในปี 60 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,410 ล้านบาท โดยจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด 2,700-2,800 ล้านบาท โดย Backlog ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนภายในปี 61 และบริษัทจะพยายามรักษาระดับของ Backlog ในแต่ละปีให้อยู่ในระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ในอนาคต