xs
xsm
sm
md
lg

“SET Index” ปิดตลาดร่วง 0.99 จุด โบรกฯ ชี้ไร้ปัจจัยสนับสนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดเบาบางเพียง 0.99 จุด โบรกชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างพากันจับตาประชุมเฟด กำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ย ชี้ยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนอะไรใหม่ๆ แนะนักลงทุนเข้าซื้อสะสมในช่วงดัชนีอ่อนตัวที่ประมาณ 1,570-1,550 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดทำการซื้อขาย วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ปรับตัวลดลง -0.99 จุด หรือ -0.06% โดยปิดที่ 1,576.32 จุด ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,581.35 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,569.75 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 60,515.01 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 516 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 375 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง 712 หลักทรัพย์

ขณะที่จำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,498.59 ล้านบาท และบัญชี บล.ซื้อสุทธิ 848.13 ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,132.78 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ กลับขายสุทธิกว่า -1,213.93 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปิดที่ 404.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,266.54 ล้านบาท

2.บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ปิดที่ 98.75 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,429.46 ล้านบาท

3.บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ปิดที่ 9.10 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,863.93 ล้านบาท

4.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ปิดที่ 191.00 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,500.35 ล้านบาท

5.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ปิดที่ 66.50 บาท ปรับตัวลดลง -1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,409.47 ล้านบาท

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,225.06 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.90 จุด หรือ 0.09% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 984.71 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.50 จุด หรือ 0.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 644.73 จุด ลดลง -1.29 จุด หรือ -0.20%

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวว่า มุมมองดัชนีฯ การลงทุน คาดว่า แนวโน้มหุ้นไทยผันผวนในกรอบ 1,570-1,590 จุด เนื่องจากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจับตาการประชุมเฟด ซึ่งส่วนใหญ่คาดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ แม้ล่าสุด อัตราเงินสหรัฐฯ พุ่งเกินระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด ส่วนประเด็นนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง หลังวานนี้ (31 ม.ค.) โจมตีจีน ญี่ปุ่น และเยอรมนีว่า สร้างความได้เปรียบทางการค้าจากค่าเงินที่อ่อนเกินความเป็นจริง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างรอดูจุดซื้อสำหรับการเล่นรีบาวนด์ ซึ่งก็คงจะอาศัยตามสัญญาณทางเทคนิคเป็นหลัก พร้อมให้แนวรับ 1,571-1,558 จุด หากหลุดจะไปแนวรับที่ 1,546 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,586 จุด

ขณะที่ นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) คาดว่า ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิด โดยคาดแนวรับอยู่ที่ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,580-1,585 จุด รวมถึงคืนนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งหากตอกย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางเชิงบวก จะทำให้ภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อสะสมในช่วงดัชนีอ่อนตัวที่ประมาณ 1,570-1,550 จุด โดยแนะนำกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นปันผลดี กลุ่มสื่อสาร และธนาคาร เช่น ADVANC และ KTB
กำลังโหลดความคิดเห็น