xs
xsm
sm
md
lg

“คอลลิเออร์ส” ชี้ปี 60 ศูนย์การค้าขยายตัวสูงสวนทางคอมมูนิตี้มอลล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“คอลลิเออร์ส” ชี้แนวโน้มคอมมูนิตี้มอลล์หดตัว หลังผู้ประกอบการทบทวนแผนลงทุน เหตุโครงการเปิดตัวก่อนหน้าล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ ขณะที่แนวโน้มพื้นที่ค้าปลีกในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ขยายตัวต่อเนื่อง ดันพื้นที่ค้าปลีกศูนย์การค้าขนาดใหญ่ขยายตัวสูง

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เรนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า จากการจัดเก็บข้มมูลตลาดพื้นที่ค้าปลีกประจำปี 2559 พบว่า มีพื้นที่ค้าปลีกโดยรวมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และโดยรอบอยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการใหม่ในปี 2559 ประมาณ 130,380 ตารางเมตร เป็นพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์มากที่สุดประมาณ 85,380 ตารางเมตร รองลงมาเป็นสเปเชี่ยลตี้ สโตร์ ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 41,000 ตารางเมตร

ทั้งนี้ แม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์จะมีพื้นที่เปิดขายใหม่มากที่สุดในปีที่ผ่านมา แต่อัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ค้าปลีกในคอมมูนิตี้มอลล์ กลับมีปริมาณที่ลดลงจากปีก่อนหน้านี้แบบเห็นได้ชัด เนื่องจากมีหลายโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีแผนจะพัฒน่าคอมมูนิตี้มอลล์ เริ่มทบทวนแผนการพัฒนาโครงการใหม่ ขณะที่แนวโน้มการเปิดศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เริ่มมีโครงการเปิดให้บริการใหม่มากขึ้นในปี พ.ศ.2560-2563 หลังจากที่ชะลอไปในปี พ.ศ.2559 และมีบางโครงการที่เลื่อนมาจาก พ.ศ.2559

ทั้งนี้ พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ ณ สิ้นปี 59 อยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าประมาณ 58% จากพื้นที่ทั้งหมด เพราะศูนย์การค้ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ศูนย์การค้าใหม่ๆ ที่เปิดให้บริการจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รวมบริการ และร้านค้าที่สามารถรองรับคนทุกเพศทุกวัยไว้ในพื้นที่เดียวกัน ขนาดพื้นที่จึงใหญ่มาก คอมมูนิตี้มอลล์มีพื้นที่รวมมากเป็นลำดับที่สอง เพราะการขยายตัวที่มากอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนมีพื้นที่รวมมากกว่าซูเปอร์สโตร์มอลล์ หรือไฮเปอร์มาร์เกต ที่มีโครงการใหม่น้อยมาก

โดยโครงการค้าปลีกใหม่ที่กำลังก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าส่วนใหญ่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ชานเมือง หรือว่า เมืองชั้นนอก ขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์ลดลง โดยมีพื้นที่ค้าปลีกอีกมากกว่า 723,000 ตารางเมตร ที่กำลังก่อสร้าง และมีกำหนดสร้างเสร็จในช่วงปี พ.ศ.2560-2561 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่มีรูปแบบของโครงการพื้นที่ค้าปลีกหลากหลายมีความพยายามในการขยาย หรือเพิ่มจำนวนสาขาโครงการค้าปลีกของตนเองในทุกรูปแบบโดยเฉพาะในกลุ่มของพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็ก เช่น ซูเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อโดยรูปแบบที่เป็นที่นิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับความสนใจต่อไป คือ ซูเปอร์มาร์เกตขนาดเล็ก และร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันเพื่อรองรับกำลังซื้อของคนที่เดินทาง และคนในชุมชนโดยรอบ โดยสังเกตได้จากแต่ละผู้ให้บริการปั๊มน้ำมันจะมีพันธมิตร หรือว่าร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในการเปิดซูเปอร์มาร์เกตขนาดเล็ก หรือร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันของตนเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น