“คลัง” กระตุ้น “รสก.” เร่งปั๊มภาคการลงทุน 6 แสนล้าน สร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชน มั่นใจช่วยให้เกิดการลงทุนตามมาแน่นอน และช่วยหนุนจีดีพีปีหน้าขยายตัวทะลุ 4.0% ได้แน่นอน ยอมรับ ที่ผ่านมา เอกชนชะลอการลงทุนใหม่มาประมาณ 10 ปี ดังนั้น จึงถึงเวลาที่จะต้องลงทุนใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง เตรียมจัดบีโอไอพลัส ปลุกนักลงทุน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลกรรมการรัฐวิสาหกิจ (รสก.) โดยระบุว่า ปีนี้รัฐวิสาหกิจตั้งเป้าลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายงบประมาณได้ไม่ถึง 50% โดยในปี 2560 ได้มีการตั้งเป้าลงทุนไว้สูงถึง 600,000 ล้านบาท
“ปีนี้เรายอมรับว่า การเบิกจ่ายทำได้เพียง 50% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก เราเลยสั่งว่า ปีหน้าห้ามลดเป้าหมายที่เราตั้งไว้ 95% จะต้องทำให้ได้ การตั้งเป้าจะต้องนำไปสู่การบริหารจัดการทำอย่างเข้มแข็ง และต้องทำให้ได้ ไม่ใช่ผ่านไปไม่กี่เดือนมาขอลดเป้าหมาย”
ดังนั้น จึงได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งต้องเบิกจ่ายให้ได้ 95% ของงบประมาณ โดยให้ทำตั้งแต่เดือนแรกของปีงบประมาณ เพื่อกระตุ้นการลงทุนของประเทศ และจูงใจภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนเพิ่ม มั่นใจว่าการลงทุนใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ และถ้าภาคเอกชนสนใจลงทุนจะช่วยกระตุ้นจีดีพีให้ขยายตัวถึง 4.1% จากปกติขยายตัวที่ระดับ 3.0%
“มั่นใจว่า หากเอกชนเร่งเดินหน้าลงทุนแล้วจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้สูงทะลุ 4% จากปัจจุบันที่คาดการณ์ว่า จะขยายตัวในระดับ 3% เท่านั้น”
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีรัฐวิสาหกิจ 55 แห่ง สินทรัพย์รวมทั้งหมด 3.3 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับจีดีพีประเทศ มีเป้าหมายหลักดูแลประชาชน โดยเน้นให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งพัฒนาศักยภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เทียบเท่ากับภาคเอกชน
ทั้งนี้ คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการดำเนินนโยบาย เพื่อให้ฝ่ายบริหารสามารถดำเนินการได้ และต้องมีซีอีโอมีความรู้ความสามารถพร้อมปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงรัฐวิสาหกิจของตนเอง
ขณะเดียวกัน รัฐวิสาหกิจทุกแห่งต้องดำเนินการภายใต้ธรรมาภิบาล และปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส เพื่อปรับภาพลักษณ์รัฐวิสาหกิจไทยให้ดีขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะเป็นผู้ดูแลการดำเนินนโยบายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เพื่อจะได้รัฐวิสาหกิจยุคใหม่ และเป็นที่พึ่งของประชาชน
“รัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ จะต้องเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร การสร้างธรรมาภิบาลในองค์กร ที่สามารถตรวจสอบได้ ที่จะเป็นหลักในการสร้างความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเอกชน”
สำหรับรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นมานั้น มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป และมีหน้าที่ของตัวเองโดยไม่เป็นการแสวงหากำไรสูงสุด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายมองว่า รัฐวิสาหกิจไม่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเอกชน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอนาคตจะมีการคัดเลือกผู้บริหารที่ไม่ใช่แค่คนเก่ง หรือมาจากตัวแทนนักการเมืองเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพในการบริหารงานมากขึ้น
ดังนั้น การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ภาคเอกชนเดินหน้าลงทุนตาม เพราะที่ผ่านมา เอกชนชะลอการลงทุนใหม่มาประมาณ 10 ปี เพราะฉะนั้น จึงถึงเวลาที่จะต้องลงทุนใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง โดยที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ ผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งการให้สิทธิประโยชน์ รวมถึงเร็วๆ นี้จะมีการออกบีโอไอพลัส เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เอกชนลงทุนด้วย
