xs
xsm
sm
md
lg

พบความเสี่ยงด้านการคลังปี 59-64 รายได้น้อยกว่ารายจ่าย ด้านหนี้สาธารณะยังไม่น่าห่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปลัดคลัง เผย “ความเสี่ยงทางการคลัง” ปี 2559-2564 โดยพบว่า งบฯ ปีนี้ประมาณการรายได้ 2.33 ล้านล้านบาท ขณะที่รายจ่ายพุ่งแตะ 2.77 ล้านล้านบาท แต่ข่าวดีเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3-4% ส่วนหนี้สาธารณะยังไม่น่าเป็นห่วง

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายงานความเสี่ยงทางการปีงบประมาณ 2558 ได้ประเมินความเสี่ยงทางการคลังในปีงบประมาณ 2559-2564 พบว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3-4% ซึ่งเป็นการประเมินอย่างระมัดระวัง และยังไม่ได้รวมนโยบาย และมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญที่รัฐบาลมีแผนดำเนินการอีกมากในอนาคต ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยโตได้มากกว่าที่ประเมินไว้ในรายงาน

ปัจจุบัน นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่สำคัญ ทั้งการเดินหน้าเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 การสนับสนุนคลัสเตอร์ 10 อุตสาหกรรมไฮเทค การสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่ หรือ สตาร์ทอัป การทำระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเพย์เมนต์ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตได้เต็มศักยภาพปีละ 4.5-5.0% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาล และหน่วยงานทางเศรษฐกิจทำให้ได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ การรายงานความเสี่ยงทางการคลังที่ประเมินรายได้ และรายจ่ายปี 2559-2564 พบว่า การหารายได้จะน้อยกว่ารายจ่ายตลอด โดยในปีงบประมาณ 2559 ประมาณการรายได้ 2.33 ล้านล้านบาท แต่รายจ่าย 2.77 ล้านล้านบาท และปีงบประมาณ 2564 รายได้ 2.94 ล้านล้านบาท แต่รายจ่าย 3.67 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นเรื่องปกติของประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รายจ่ายจะขยายตัวได้เร็วกว่าการหารายได้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้เร่งปฏิรูปภาษีของประเทศ เพื่อให้การเก็บภาษีของประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเดินหน้าโครงการระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเพย์เมนต์ จะทำให้การรั่วไหลของการเก็บภาษีลดลง รายได้ของประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้การรายได้เพียงพอกับรายจ่าย

นอกจากนี้ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงหนี้สาธารณะของไทยที่เพิ่มขึ้น จากการประเมินปีงบประมาณ 2559 มีหนี้ 6.26 ล้านล้านบาท หรือ 44.9% ของจีดีพี และในปีงบประมาณ 2564 จะมีหนี้ 9.77 ล้านล้านบาท 53.3% เพราะยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ 60% ของจีดีพี และหากการดำเนินการมาตรการต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจโตได้เต็มศักยภาพ 4.5-5% ก็จะทำให้สัดส่วนหนี้ลดลงมาก ยังไม่รวมกับหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF ที่มีอยู่ 9 แสนล้านบาท ซึ่งหนี้ส่วนหนี้ไม่เป็นภาระกับงบประมาณ แต่ยังนับรวมเป็นหนี้สาธารณะอยู่ หากตัดส่วนนี้ออกจะเห็นว่า หนี้สาธารณะของไทยอยู่ระดับต่ำไม่น่าเป็นห่วง

นอกจากนี้ รายงานความเสี่ยงทางการคลังปีงบประมาณ 2558 ได้เสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อลดความเสี่ยงการคลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ ประเมินรายได้รายจ่าย และฐานะการคลังให้ทันกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทำความเข้าใจกับสาธารณชนให้เข้าใจหากเป้าหมายทางการ คลังคลาดเคลื่อนไปจากที่ประเมินไว้

นอกจากนี้ ให้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี และส่งเสริมให้ประชาชน และผู้ประกอบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง รวมถึงการสร้างแรงจูงใจเพื่อลดการหลบเลี่ยงภาษี รวมถึงกำหนดระยะเวลาการทำงบประมาณแบบสมดุลให้ชัดเจน และผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเงินการคลังของรัฐ มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อใช้เป็นกรอบ และแนวทางในการรักษาวินัยทางการคลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น