บิ๊กแบงก์กรุงเทพ เผยอยู่ระหว่างขอเปิดสาขาในกัมพูชา หวังครอบคลุมทั่ว AEC มีศักยภาพในการเติบโต ระบุทุกสาขาในต่างประเทศยังทำกำไรได้ดี และสนใจเปิดสาขาในเวียดนามเพิ่ม พร้อมยันเป้าสินเชื่อปีนี้โต 5-7% หวังการเมืองจบเร็ว
นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางการกัมพูชาในการเข้าไปเปิดสาขาในประเทศดังกล่าว โดยธนาคารเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตด้านการลงทุนที่จะมีเข้ามาสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากสามารถเปิดสาขาที่กัมพูชาได้ ธนาคารก็จะมีสาขา หรือสำนักงานตัวแทนครบทั้ง 9 ประเทศในภูมิภาคนี้
“ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพเคยมีสาขาที่กัมพูชาแต่ปิดไปในสมัยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้เริ่มได้รับสนใจมากขึ้น ซึ่งหากธนาคารเข้าไปสาขาก็จะสามารถรองรับทั้งจากลูกค้าธนาคารที่ต้องการไปลงทุนที่กัมพูชา และลูกค้าในประเทศที่จะออกไปลงทุนที่ประเทศอื่นๆ เนื่องจากธนาคารมีสาขาครอบคลุมอยู่ในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว โดยลูกค้าธนาคารส่วนใหญ่เป็นโรงน้ำตาลขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจส่งออก แต่เราก็ให้บริการทั้งลูกค้ารายใหญ่และเอสเอ็มอีอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ในบรรดากลุ่มประเทศ AEC ธนาคารมีสาขาครอบคลุมเกือบทั้งหมด ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 1 สาขา เวียดนาม 2 สาขา มาเลเซีย 5 สาขา สิงคโปร์ 1 สาขา อินโดนีเซีย 3 สาขา พม่า 1 สาขา และลาว 1 สาขา ยกเว้นที่บรูไน และกัมพูชา ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางการ
“ผลการดำเนินงานของสาขาในต่างประเทศทุแห่งยังสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดี โดยเราเน้นทั้ง 2 ด้าน คือ ให้บริการลูกค้าที่สนใจไปลงทุน และนักลงทุนต่างชาติที่สนใจไปลงทุนในประเทศนั้นๆ ด้วย และยังมีความสนใจที่จะเปิดสาขาเพิ่มที่เวียดนามอีกด้วย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนค่อนข้างมาก”
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดให้บริการสาขาแห่งใหม่ลำดับที่ 5 สาขาฉงชิ่ง ณ มหานครฉงชิ่งเพื่อขยายพื้นที่การให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้า และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของธนาคารทางฝั่งตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเมื่อรวมกับสาขาอื่นของธนาคารที่ล้วนอยู่ในเขตเศรษฐกิจสำคัญของจีนจะเป็นผลให้ธนาคารสามารถขยายโอกาสการให้บริการแก่ลูกค้า และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพ ประเทศจีน มีจำนวนสาขารวมทั้งหมด 5 แห่ง คือ สาขาเซี่ยงไฮ้ สาขาปักกิ่ง สาขาเซี่ยะเหมิน สาขาเซินเจิ้น และล่าสุด สาขาฉงชิ่ง ซึ่งธนาคารกรุงเทพ นับเป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยเพียงแห่งเดียวที่มีเครือข่ายต่างประเทศที่กว้างขวางมากถึง 27 แห่ง กระจายอยู่ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก
คงเป้าสินเชื่อที่ 5-7%
นายเดชา กล่าวอีกว่า ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 5-7% แม้ทิศทางเศรษฐกิจไนไตรมาส 2 จะยังไม่มีความชัดเจนจากสถานการณ์การเมืองที่ยังคลี่คลาย แต่ก็ยังเชื่อว่า หากการเมืองสามารถจบได้เร็วก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่ในช่วงนี้การเติบโตของธนาคารอาจจะยังไม่มีความหวือหวามากนัก จะต้องดูเป็นรายไตรมาสต่อไตรมาส แต่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังอยู่ระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่ก็มียอดผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ด้านการตั้งสำรองหนี้ที่สงสัยจะสูญในไตรมาสแรกคงเป็นการตั้งสำรองในระดับปกติ และหากมีการตั้งสำรองหนี้เพิ่มก็จะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลแต่อย่างใด
นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางการกัมพูชาในการเข้าไปเปิดสาขาในประเทศดังกล่าว โดยธนาคารเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตด้านการลงทุนที่จะมีเข้ามาสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากสามารถเปิดสาขาที่กัมพูชาได้ ธนาคารก็จะมีสาขา หรือสำนักงานตัวแทนครบทั้ง 9 ประเทศในภูมิภาคนี้
“ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพเคยมีสาขาที่กัมพูชาแต่ปิดไปในสมัยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้เริ่มได้รับสนใจมากขึ้น ซึ่งหากธนาคารเข้าไปสาขาก็จะสามารถรองรับทั้งจากลูกค้าธนาคารที่ต้องการไปลงทุนที่กัมพูชา และลูกค้าในประเทศที่จะออกไปลงทุนที่ประเทศอื่นๆ เนื่องจากธนาคารมีสาขาครอบคลุมอยู่ในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว โดยลูกค้าธนาคารส่วนใหญ่เป็นโรงน้ำตาลขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจส่งออก แต่เราก็ให้บริการทั้งลูกค้ารายใหญ่และเอสเอ็มอีอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ในบรรดากลุ่มประเทศ AEC ธนาคารมีสาขาครอบคลุมเกือบทั้งหมด ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 1 สาขา เวียดนาม 2 สาขา มาเลเซีย 5 สาขา สิงคโปร์ 1 สาขา อินโดนีเซีย 3 สาขา พม่า 1 สาขา และลาว 1 สาขา ยกเว้นที่บรูไน และกัมพูชา ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางการ
“ผลการดำเนินงานของสาขาในต่างประเทศทุแห่งยังสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดี โดยเราเน้นทั้ง 2 ด้าน คือ ให้บริการลูกค้าที่สนใจไปลงทุน และนักลงทุนต่างชาติที่สนใจไปลงทุนในประเทศนั้นๆ ด้วย และยังมีความสนใจที่จะเปิดสาขาเพิ่มที่เวียดนามอีกด้วย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนค่อนข้างมาก”
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดให้บริการสาขาแห่งใหม่ลำดับที่ 5 สาขาฉงชิ่ง ณ มหานครฉงชิ่งเพื่อขยายพื้นที่การให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้า และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของธนาคารทางฝั่งตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเมื่อรวมกับสาขาอื่นของธนาคารที่ล้วนอยู่ในเขตเศรษฐกิจสำคัญของจีนจะเป็นผลให้ธนาคารสามารถขยายโอกาสการให้บริการแก่ลูกค้า และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพ ประเทศจีน มีจำนวนสาขารวมทั้งหมด 5 แห่ง คือ สาขาเซี่ยงไฮ้ สาขาปักกิ่ง สาขาเซี่ยะเหมิน สาขาเซินเจิ้น และล่าสุด สาขาฉงชิ่ง ซึ่งธนาคารกรุงเทพ นับเป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยเพียงแห่งเดียวที่มีเครือข่ายต่างประเทศที่กว้างขวางมากถึง 27 แห่ง กระจายอยู่ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก
คงเป้าสินเชื่อที่ 5-7%
นายเดชา กล่าวอีกว่า ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 5-7% แม้ทิศทางเศรษฐกิจไนไตรมาส 2 จะยังไม่มีความชัดเจนจากสถานการณ์การเมืองที่ยังคลี่คลาย แต่ก็ยังเชื่อว่า หากการเมืองสามารถจบได้เร็วก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่ในช่วงนี้การเติบโตของธนาคารอาจจะยังไม่มีความหวือหวามากนัก จะต้องดูเป็นรายไตรมาสต่อไตรมาส แต่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังอยู่ระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่ก็มียอดผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ด้านการตั้งสำรองหนี้ที่สงสัยจะสูญในไตรมาสแรกคงเป็นการตั้งสำรองในระดับปกติ และหากมีการตั้งสำรองหนี้เพิ่มก็จะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลแต่อย่างใด