xs
xsm
sm
md
lg

เลือกทางสว่าง 5: รักประชาธิปไตยด้วยใจจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงนี้ผมขอถอดหมวกนักธุรกิจ แต่สวมหมวกฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย อดีตนักกิจกรรม นายกสโมสรนิสิต จุฬาฯ ปี 2527 ด้วยความรักและห่วงใยในบ้านเมืองจริงๆ ครับ

ระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่ดีและเป็นที่ประสงค์ของชนชาติต่างๆทั่วโลก เพราะเป็นระบอบที่สมเหตุผล และเป็นธรรม แต่ละประเทศต้องมีผู้นำ ผู้บริหารบ้านเมือง และควรจะมาจากการเลือกตั้ง ประเทศไทยยิ่งโชคดีที่เรามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาชนไทยมีทั้งอำนาจอธิปไตยในการปกครองตนเอง และมีประมุขคือพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยเสมอมา ทรงเป็นที่รักและศรัทธาของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดินไม่มีใครสามารถสร้างความเสี่ยงต่อ "ประชาธิปไตย" ได้เท่ากับ ผู้ที่จ้องใช้ประชาธิปไตยเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องการเลือกตั้งควรจะสะท้อน ผู้ที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศโดยประชาชน และเพื่อประชาชน

**การกระทำเพื่อประชาชน ต้องไม่ใช่เพียงเอาเงินภาษีของรัฐไปแจกง่ายๆ เหมือนดังที่ สว. ท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า "มันคือการซื้อเสียง ที่ไม่ได้ใช้เงินของตัวเอง และทำให้ดูเหมือนถูกกฎหมาย" เงินภาษีของรัฐ พึงใช้เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีศักยภาพในการผลิตมากขึ้น** ทำงานได้มั่นคงมากขึ้น ไม่ใช่แจกง่ายๆ สร้างหนี้ง่ายๆ ยกหนี้ง่ายๆ แล้วก็ยังยากจนต่อไปการเมืองมักจะสะดุดจากสิ่งที่เป็นปัญหาชัดเจนที่สุด คือการ** "ทุจริต" ฉ้อโกงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นของตัว ยากที่ประชาชนผู้เสียภาษี และประชาชนทั่วไปที่จะได้ประโยชน์ของการใช้ภาษีจะทนรับได้เรื่องความไม่แน่นอนมีปัญหาไม่น่าดูขณะนี้ ก็ขึ้นกับผู้มีอำนาจรัฐเป็น "ผู้เลือก"**

ถ้าเลือกที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคง ก็ไม่ควรทุจริต ไม่ควรใช้อำนาจรัฐบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม รัฐธรรมนูญกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน ฝ่ายเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล บริหารบ้านเมือง ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการตรวจสอบรัฐบาล

รัฐบาลที่แล้ว มีปัญหาเรื่องคดีการทุจริตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องใช้อำนาจเอื้อกิจการ ซึ่งผู้มีอำนาจถือหุ้นผ่านโนมินีต่างๆ ทั้งกองทุนลับต่างประเทศ ทั้งผ่านบุคคลใกล้ชิด กรณีซีทีเอ็กซ์ กรณีรถดับเพลิงที่ตกลงกันแบบจีทูจีกับต่างประเทศ แต่เป็นรถผลิตในไทยส่งอ้อมไปอ้อมมาอย่างไม่น่าดู ฯลฯสิ่งที่รัฐบาลที่แล้ว "เลือก" คือ ฉันมีอำนาจมาก ฉันมีเงินมาก ฉันจะยุบสภาก่อนการอภิปราย รัฐสภาจึงไม่สามารถทำงาน ที่น่ากลัวคือ **รัฐบาล "เลือก"ที่จะพยายามไม่ให้ความจริงปรากฏทั่วถึงกัน ประชาชนถูกปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร รับรู้ข้อมูลไม่เท่ากัน พยายามทำให้ประชาชนไม่เข้าใจกัน ถูกผลักดันให้กลายเป็น "พวกเขา พวกเรา"**

ล่าสุด ฝ่ายรัฐบาลน่าจะได้ระมัดระวังมากกว่านี้ในการกล่าวว่า** "กลุ่มพันธมิตรฯ" ต้องการตั้งรัฐบาลด้วยวิธีเช่นนี้หรือ ? จะให้ "พลตรี จำลอง" เป็นนายกฯ ด้วยวิธีนี้หรือ ? ผมว่าเป็นการกล่าวเท็จที่น่าระมัดระวัง ** ประชาชนที่ทนไม่ได้กับการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร จึงต้องดั้นด้นไปฟังการปราศรัย การสัมนาที่ชุมนุม และจะรับทราบว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้มาชุมนุมเพื่อหวังอำนาจรัฐ แต่หวังที่จะกดดันไม่ให้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบอีกต่อไปเหมือนดังที่คุณ สุริยะใส กตะศิลาได้กล่าวหลายครั้งว่า **"เมื่อท่านได้รับการเลือกตั้งมา เราก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร แต่ได้เตือนแล้วว่า ขอให้ใช้อำนาจในทางที่ชอบ อย่าบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" **

ดังนั้น อย่ากล่าวเท็จว่า กลุ่มพันธมิตรฯดำเนินการเรื่องนี้โดยหวังอำนาจรัฐ ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยการที่ท่านนายกฯได้กล่าวในรายการสนทนาของท่าน ก็น่าจะได้ระมัดระวังกว่านั้น การกล่าวว่า "ฝ่ายค้านอภิปรายด้วยความเกลียดชัง หรือหวังอำนาจแทนฝ่ายรัฐบาล" โดยยังไม่ทันได้ฟังการอภิปราย เป็นหลักฐานสะท้อนว่า ท่านนายกฯกำลัง "เลือก" ที่จะทำให้ประชาชนดูถูกระบอบประชาธิปไตย และเข้าใจประชาธิปไตยไปในทางมืด คือทุกฝ่ายมุ่งอำนาจส่วนตัวเท่านั้น เป็นเพียงการต่อสู้ระหว่างกลุ่มผู้ต้องการอำนาจ แต่ไม่พูดความจริงว่า **"ฝ่ายตรงข้าม ประท้วงเรื่องการใช้อำนาจรัฐบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เช่นการโยกย้ายดีเอสไอ จนล่าสุด มีแนวโน้มว่า ผู้ถูกกล่าวหา กำลังจะหาทางที่จะชิงยึดเอาสมบัติที่ถูกอายัดไป ก่อนความจริงจะปรากฏให้กระจ่าง" **

และการที่ท่านจะวาดภาพว่า "ลองกลับกันดู ให้นายกฯชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" แล้วผมมี สส. สอบตกหลายคน เอามาสัก 5 คนให้ปิดถนนเส้นนั้นเส้นนี้บ้าง จะเอาอย่างนั้นไหม ? ผมว่าท่านน่าจะระวังกว่านี้ในการสื่อความ ท่านไม่คิดจะตอบประเด็นที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยถามเรื่อง **"ความทุจริต" และการใช้อำนาจกดดันบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมของกลุ่มท่านและพวกพ้อง แต่ปกปิดและยั่วยุให้ผู้ที่รู้ข้อมูลไม่ครบถ้วนตรงกัน เข้าใจกันผิด และแตกความสามัคคีในชาติ วิธีแก้ไข คือเอาข้อมูลมาตีแผ่ให้เห็นชัดเท่าเทียมกัน ถูกก็ว่ากันตามถูก ผิดก็ว่ากันตามผิด ทุกอย่างก็กระจ่าง โดยคนไทยก็ยังคงรักสามัคคีกัน ไม่ต้องทะเลาะแตกแยกกัน**

ผมว่าประชาชนอยากจะมีประชาธิปไตยที่มีมาตรฐานสูงกว่าที่ท่านนายกฯได้วาดภาพโดยพูดไม่ครบนั้น รัฐบาลพึงทำงานไป ประชาชนหวังว่าทำโดยสุจริต เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อตนและพวกพ้อง ฝ่ายค้านก็ตรวจสอบ หากไม่มีหลักฐาน ประชาชนก็จะยิ่งศรัทธาต่อรัฐบาล และฝ่ายค้านก็จะเสียความน่าเชื่อถือ แต่ถ้ารัฐบาลเล่นแต่เกมส์ ขัดขวางการอภิปราย แทนที่จะหาหลักฐานมาโต้ตอบให้ประชาชนสบายใจ ก็ถือว่าเป็นการลดระดับคุณภาพของประชาธิปไตยของคนไทย ด้วยผู้ที่อ้างว่า มาจากประชาธิปไตยอย่างถูกต้องนี่เอง

ผมยืนยันว่า คนมากมายหลายหมื่นคนที่ไปใช้สิทธิของการเมืองภาคประชาชน ไม่ได้ถูกจ้างมาโดยพรรคการเมืองใด ไม่ว่าพรรคการเมืองใด ไม่สามารถระดมผู้คนมากเช่นนี้ มาเสียสละบนถนนได้มากมายเช่นนี้หรอกครับ คนส่วนใหญ่ ด้วยความรักชาติรักแผ่นดิน รักความถูกต้องยุติธรรม ไปร่วมแล้ว ยังร่วมกันบริจาคอีกด้วย

**กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่มีบารมีขนาดนั้นที่เรียกระดมประชาชนได้ขนาดนี้ หากไม่ใช่ปัญหาที่ประชาชนเหล่านี้ได้เห็นร่วมกัน ในการป้องกันการ "โกงบ้านโกงเมือง" จึงร่วมมือร่วมใจกัน ปกป้องความยุติธรรมในบ้านเมือง หลายคนเป็นคนทำงานทุกวัน ไม่ได้เรียกร้องเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่ต้องการปกป้องความจริงของบ้านเมือง** ผมว่าระดับมาตรฐานความคิดความศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตยของไทยของผู้มีอำนาจถ้าดีกว่านี้ก็น่าจะดี ขอให้คนไทย รู้รักสามัคคี ไม่ยอมรับความแตกแยก เชื่อทางสว่าง ส่งเสริมความดี ให้กำลังใจรัฐบาลในการบริหารบ้านเมืองอย่างสุจริต จริงใจต่อระบอบประชาธิปไตย ไม่ฟอกเรื่องดำให้เป็นขาว ทำทุกอย่างให้กระจ่างด้วยหลักฐานและเหตุผล บ้านเมืองก็จะไม่เข้าสู่วิกฤต เศรษฐกิจจึงจะดีต่อไปได้ในระยะยาวครับ

มนตรี ศรไพศาล
(ฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่ประชาธิปไตย)
montree4life@yahoo.com

กำลังโหลดความคิดเห็น