สัปดาห์นี้ SET อาจฟื้นตัวกรอบเล็ก ๆ กลับมาทดสอบแนวต้าน 690 จุดได้ หาก SET ไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์ ซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นมาที่ 670-672 จุดลงไป ปตท. (PTT) ต้องไม่ต่ำกว่า 206-210 บาท และ SETBANK ต้องไม่หลุดต่ำกว่า 241 จุด หุ้นขนาดเล็ก-กลางแนวโน้มฟื้นดีกว่าหุ้นใหญ่ หุ้น 3 กลุ่มที่จะแข็งแรงกว่าตลาดฯ รวมคือ แบงก์ กสิกรไทย (KTB) เงินทุนหลักทรัพย์ สื่อสาร
สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ขายหนักหน่วง 4 วันทำการ จันทร์-พฤหัสบดี ขายสุทธิรวมถึง 10,104.43 ล้านบาท ทำให้ยอดขายสุทธิสะสม 3-20 ต.ค. 18,627 ล้านบาท ทำลายสถิติสูงสุดในรอบปี ส่งผลให้ SET ลดถึง 25 กว่าจุด
ปัจจัยต้องติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่
1)ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบ 10,000 จุดต้น ๆ อาจส่งผลลบจิตวิทยา
ตลาดหุ้นไทย
2) แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกว่าจะอ่อนตัวต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือไม่ ซึ่งหากยังอยู่
ในแนวโน้มอ่อนตัวลง จะสร้างผลลบราคาหุ้นกลุ่มน้ำมัน ปตท. (PTT) ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ไทยออยล์ (TOP) โดยเฉพาะ PTT ได้รับผลลบจากการที่ต้องอุดหนุนราคาแก๊สให้ กฟผ.
3)สถานการณ์การระบาดโรคไข้หวัดนก ทั้งในยุโรป-ไทย
สัปดาห์นี้ SET อาจฟื้นตัวกรอบเล็ก ๆ กลับมาทดสอบแนวต้าน 690 จุดได้ หาก SET ไม่หลุดต่ำกว่า
แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์ ซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นมาที่ 670-672 จุดลงไป จุดสังเกต PTT ต้องไม่หย่อนตัวต่ำกว่า 206-210 บาท และ SETBANK ต้องไม่หลุดต่ำกว่า 241 จุด
หุ้นขนาดเล็ก-กลางจะมีแนวโน้มฟื้นดีกว่าหุ้นใหญ่ หุ้น 3 กลุ่มที่จะแข็งแรงกว่าตลาดฯ รวมคือ กลุ่มธนาคาร กสิกรไทย (KTB) ทหารไทย (TMB) กรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) กลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ บล. ภัทร (PHATRA) บล.สินเอเซีย (ACL) และกลุ่มสื่อสาร ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ทีที แอนด์ ที (TT&T) สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART)
แสงธรรม จรณชัยกุล, CISA (0) 2680-1268 saengtham@asiaplus.co.th
ปวริศา เลิศกิจคุณานนท์(0) 2680-1264 pawarisa@asiaplus.co.th
ต้องการบทวิเคราะห์ ติดต่อCall Center : 02-680-1600
สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ขายหนักหน่วง 4 วันทำการ จันทร์-พฤหัสบดี ขายสุทธิรวมถึง 10,104.43 ล้านบาท ทำให้ยอดขายสุทธิสะสม 3-20 ต.ค. 18,627 ล้านบาท ทำลายสถิติสูงสุดในรอบปี ส่งผลให้ SET ลดถึง 25 กว่าจุด
ปัจจัยต้องติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่
1)ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบ 10,000 จุดต้น ๆ อาจส่งผลลบจิตวิทยา
ตลาดหุ้นไทย
2) แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกว่าจะอ่อนตัวต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือไม่ ซึ่งหากยังอยู่
ในแนวโน้มอ่อนตัวลง จะสร้างผลลบราคาหุ้นกลุ่มน้ำมัน ปตท. (PTT) ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ไทยออยล์ (TOP) โดยเฉพาะ PTT ได้รับผลลบจากการที่ต้องอุดหนุนราคาแก๊สให้ กฟผ.
3)สถานการณ์การระบาดโรคไข้หวัดนก ทั้งในยุโรป-ไทย
สัปดาห์นี้ SET อาจฟื้นตัวกรอบเล็ก ๆ กลับมาทดสอบแนวต้าน 690 จุดได้ หาก SET ไม่หลุดต่ำกว่า
แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์ ซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นมาที่ 670-672 จุดลงไป จุดสังเกต PTT ต้องไม่หย่อนตัวต่ำกว่า 206-210 บาท และ SETBANK ต้องไม่หลุดต่ำกว่า 241 จุด
หุ้นขนาดเล็ก-กลางจะมีแนวโน้มฟื้นดีกว่าหุ้นใหญ่ หุ้น 3 กลุ่มที่จะแข็งแรงกว่าตลาดฯ รวมคือ กลุ่มธนาคาร กสิกรไทย (KTB) ทหารไทย (TMB) กรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) กลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ บล. ภัทร (PHATRA) บล.สินเอเซีย (ACL) และกลุ่มสื่อสาร ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ทีที แอนด์ ที (TT&T) สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART)
แสงธรรม จรณชัยกุล, CISA (0) 2680-1268 saengtham@asiaplus.co.th
ปวริศา เลิศกิจคุณานนท์(0) 2680-1264 pawarisa@asiaplus.co.th
ต้องการบทวิเคราะห์ ติดต่อCall Center : 02-680-1600