โดย ชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สัปดาห์นี้ ดิฉันขอใช้หนี้ที่ติดค้างกับผู้ที่มีคำถามเข้ามา คือเรื่องของ loyalty campaign สำหรับบัตรเครดิต หรือเรียกกันว่า เป็นการสร้างความภักดีให้กับผู้ถือบัตรเครดิต ภักดีอย่างไร ความภักดี คือการใช้บัตรเป็นประจำเมื่อจับจ่ายใช้สอย
หากลูกค้ามีบัตรเครดิตเพียงใบเดียว ก็จะเป็นการสร้างความอยากใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้ามากกว่าใช้เงินสด หากลูกค้ามีบัตรเครดิตหลายใบ ก็คือการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าหยิบบัตรเครดิตของบริษัทนั้นๆ ใช้ก่อน (เรียกว่า share wallet หรือการแบ่งส่วนแบ่งจากกระเป๋าเงิน) โครงการสร้างความต่อเนื่องในการใช้บัตรเครดิตนั้น ความจริงแล้ว อาจจะแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ ดังนี้
•ส่วนลด บัตรเครดิตทุกสถาบัน จะมีโปรแกรมส่วนลด ซึ่งส่วนใหญ่ จะเกี่ยวข้องกับความบันเทิง เช่น
ส่วนลดร้านอาหาร ส่วนลดค่าห้องพักโรงแรม สปา ฯลฯ ซึ่งบางแห่ง มีร้านอาหาร โรงแรม เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งรู้จักกันในวงกว้าง
ผู้ถือบัตรในปัจจุบัน จึงมักถามร้านเหล่านั้นเลย ว่ามีบัตรเครดิตนี้ๆ จะได้รับส่วนลดหรือไม่ เท่าที่มีสถิติมา ส่วนลดร้านอาหารจะฮิตกว่าส่วนลดค่าห้องโรงแรม เพราะบางครั้ง ลูกค้าจองโรงแรมผ่านอินเตอร์เนต หรือ จองเองในบางช่วง จะถูกกว่า
ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมพนักงานบริการตามร้านอาหาร มักจะขยันถามว่ามีบัตรเครดิตนั้นหรือบัตรนี้ หรือไม่ เพราะจะได้รับส่วนลด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่พนักงานของบัตรเครดิต เบื้องหลังการถ่ายทำก็คือ บริษัทบัตรเครดิต หรือสถาบันที่ออกบัตรเครดิต จะมีการตั้งรางวัลไว้เป็นแรงจูงใจกับร้านนั้นๆ ซึ่งหากยอดถึงเป้าที่กำหนด อาจจะได้รับรางวัลพิเศษที่ตกทอดไปถึงพนักงานได้
ส่วนลดอีกประเภทหนึ่งที่นิยม คือส่วนลดการเติมน้ำมัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 1% ซึ่งสมัยที่น้ำมันราคาถูกนั้น ก็เป็นที่สนใจในระดับหนึ่ง เมื่อน้ำมันมีราคาสูงมาก และสถานีบริการน้ำมัน ได้มีการรับบัตรเครดิตแพร่หลายขึ้น ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปี 2545
บัตรเครดิตกรุงศรี ได้เริ่มโครงการให้ส่วนลดในการเติมน้ำมันกับสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์เป็นรายแรก ทำให้ยอดขายน้ำมันของบริษัท คาลเท็กซ์ เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ และได้มีโครงการสืบเนื่องต่อๆ มา
•โครงการแลกแจกแถม โครงการเหล่านี้ มักจะร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล, เอ็มโพเรียม โรบินสัน โดยการที่หากผู้ถือบัตรมีการใช้บัตรของบริษัทนั้นๆ ซื้อสินค้าในวันเดียวกัน ถึงจำนวนที่กำหนด จะสามารถนำใบเสร็จไปแลกของได้เลย
•ซึ่งในปัจจุบัน จะมีโครงการกันอยู่เกือบทุกห้าง แทบจะตลอดเวลา เพียงแต่หมุนเวียนเปลี่ยนบัตรที่จะมาให้โปรโมชั่น ดังนั้น หากท่านเป็นนักล่าของแจก หรือถึงแม้ไม่ใช่ ถ้าได้มา ก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ก่อนท่านจะเข้าไปซื้อของในห้าง ควรจะดูว่าตอนนี้ บัตรเครดิตใดมีโปรแกรมแจก แถมอะไรบ้าง จะได้วางแผนใช้บัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
•เพราะบางครั้งอาจจะพบโปรโมชั่นซ้อนโปรโมชั่น คือห้างนั้นๆ อาจจะมีโปรแกรมให้แลกของด้วยหากใช้บัตรของห้างนั้นเอง เช่น ห้างเซ็นทรัล ที่มีเป็นครั้งคราว ถึงตรงนี้ ก็คงจะอยู่ที่ว่า ของที่ให้แลกนั้น ของใคร “โดนใจ” มากกว่ากัน รวมถึงว่าของใคร ได้ง่ายกว่ากัน
นอกจากนั้น บางครั้งยังมีถึง 2 เด้ง เช่น บางแผนกในห้าง จะมีการส่งเสริมการขาย โดยการซื้อถึงเท่าไหร่ ไม่ว่าใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือเงินสด จะสามารถนำไปแลกของได้อีก ที่พบเห็นส่วนมาก จะเป็นแผนกเครื่องสำอางของห้างใหญ่ๆ ที่แจกกันแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะของ จะเป็นของราคาสูง โดยมาก ของแจกของแถม จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตารีด เครื่องอบ เครื่องบด ไปจนถึงตู้เย็น เป็นต้น
ส่วนลดหรือโครงการแลกแจกแถมที่เล่ามา เป็นเรื่องที่ผู้ใช้บัตรจะได้รับของเลย ณ ที่นั้น เวลานั้น ซึ่งเรียกว่า instant win บางครั้ง ผู้ออกบัตรเครดิต อาจจะจูงใจผู้ใช้บัตร ด้วยการให้รางวัลใหญ่ เช่น บ้าน รถยนต์ หรือของที่มีมูลค่ามากๆ แต่จะเป็นลักษณะของการเสี่ยงดวง คือการจับสลาก ซึ่งผู้ถือบัตรก็ต้องไปคอยลุ้นต่อไป
เท่าที่ดิฉันมีประสบการณ์มา คนไทยจะชอบ instant win มากกว่า อาจจะเป็นเพราะปู่ย่าตายายของเราเคยพูดว่า “กำอุจจาระ ดีกว่ากำผายลม” (สุภาพดีนะคะ) ก็เลยคิดว่าเอาอะไรแน่ๆ ดีกว่า แต่ก็มีผู้สนใจร่วมโครงการไม่น้อยนะคะ
บริษัทบัตรเครดิตบางบริษัท ก็ได้มีการพัฒนาวิธีการให้รางวัล แทนที่ลูกค้าจะต้องสมัครใจส่งคูปองชิงโชคเพื่อจับสลาก ก็ใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผู้โชคดีออกมา โดยไม่ต้องส่งคูปองชิงโชค แล้วให้รางวัลเลย
ดิฉันเคยโชคดีครั้งหนึ่ง โดยมีชื่อตัวเองประกาศในหนังสือพิมพ์ โดยไม่ได้ส่งคูปองชิงโชค ได้รางวัล 2,000 บาท แต่ถูกแซวไม่เลิกเลย เพราะกลายเป็นบัตรเครดิตของสถาบันการเงินอื่น จนถึงต้องชี้แจงว่าเป็นการทดลองใช้บริการ และสำรวจตลาดค่ะ สรุปแล้วงานนั้น เลยกลายเป็น presenter ด้วยค่าตัว 2,000 บาทไปโดยปริยาย
คราวหน้าจะถึงเรื่องสะสมแต้มเพื่อแลกของแล้ว อดใจรอหน่อยนะคะ
สนใจสอบถามข้อมูลสามารถส่งมาได้ที่ dcharlotte@krungsri.com หรือ หมายเลขโทรสาร 02-683-1604
สัปดาห์นี้ ดิฉันขอใช้หนี้ที่ติดค้างกับผู้ที่มีคำถามเข้ามา คือเรื่องของ loyalty campaign สำหรับบัตรเครดิต หรือเรียกกันว่า เป็นการสร้างความภักดีให้กับผู้ถือบัตรเครดิต ภักดีอย่างไร ความภักดี คือการใช้บัตรเป็นประจำเมื่อจับจ่ายใช้สอย
หากลูกค้ามีบัตรเครดิตเพียงใบเดียว ก็จะเป็นการสร้างความอยากใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้ามากกว่าใช้เงินสด หากลูกค้ามีบัตรเครดิตหลายใบ ก็คือการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าหยิบบัตรเครดิตของบริษัทนั้นๆ ใช้ก่อน (เรียกว่า share wallet หรือการแบ่งส่วนแบ่งจากกระเป๋าเงิน) โครงการสร้างความต่อเนื่องในการใช้บัตรเครดิตนั้น ความจริงแล้ว อาจจะแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ ดังนี้
•ส่วนลด บัตรเครดิตทุกสถาบัน จะมีโปรแกรมส่วนลด ซึ่งส่วนใหญ่ จะเกี่ยวข้องกับความบันเทิง เช่น
ส่วนลดร้านอาหาร ส่วนลดค่าห้องพักโรงแรม สปา ฯลฯ ซึ่งบางแห่ง มีร้านอาหาร โรงแรม เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งรู้จักกันในวงกว้าง
ผู้ถือบัตรในปัจจุบัน จึงมักถามร้านเหล่านั้นเลย ว่ามีบัตรเครดิตนี้ๆ จะได้รับส่วนลดหรือไม่ เท่าที่มีสถิติมา ส่วนลดร้านอาหารจะฮิตกว่าส่วนลดค่าห้องโรงแรม เพราะบางครั้ง ลูกค้าจองโรงแรมผ่านอินเตอร์เนต หรือ จองเองในบางช่วง จะถูกกว่า
ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมพนักงานบริการตามร้านอาหาร มักจะขยันถามว่ามีบัตรเครดิตนั้นหรือบัตรนี้ หรือไม่ เพราะจะได้รับส่วนลด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่พนักงานของบัตรเครดิต เบื้องหลังการถ่ายทำก็คือ บริษัทบัตรเครดิต หรือสถาบันที่ออกบัตรเครดิต จะมีการตั้งรางวัลไว้เป็นแรงจูงใจกับร้านนั้นๆ ซึ่งหากยอดถึงเป้าที่กำหนด อาจจะได้รับรางวัลพิเศษที่ตกทอดไปถึงพนักงานได้
ส่วนลดอีกประเภทหนึ่งที่นิยม คือส่วนลดการเติมน้ำมัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 1% ซึ่งสมัยที่น้ำมันราคาถูกนั้น ก็เป็นที่สนใจในระดับหนึ่ง เมื่อน้ำมันมีราคาสูงมาก และสถานีบริการน้ำมัน ได้มีการรับบัตรเครดิตแพร่หลายขึ้น ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปี 2545
บัตรเครดิตกรุงศรี ได้เริ่มโครงการให้ส่วนลดในการเติมน้ำมันกับสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์เป็นรายแรก ทำให้ยอดขายน้ำมันของบริษัท คาลเท็กซ์ เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ และได้มีโครงการสืบเนื่องต่อๆ มา
•โครงการแลกแจกแถม โครงการเหล่านี้ มักจะร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล, เอ็มโพเรียม โรบินสัน โดยการที่หากผู้ถือบัตรมีการใช้บัตรของบริษัทนั้นๆ ซื้อสินค้าในวันเดียวกัน ถึงจำนวนที่กำหนด จะสามารถนำใบเสร็จไปแลกของได้เลย
•ซึ่งในปัจจุบัน จะมีโครงการกันอยู่เกือบทุกห้าง แทบจะตลอดเวลา เพียงแต่หมุนเวียนเปลี่ยนบัตรที่จะมาให้โปรโมชั่น ดังนั้น หากท่านเป็นนักล่าของแจก หรือถึงแม้ไม่ใช่ ถ้าได้มา ก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ก่อนท่านจะเข้าไปซื้อของในห้าง ควรจะดูว่าตอนนี้ บัตรเครดิตใดมีโปรแกรมแจก แถมอะไรบ้าง จะได้วางแผนใช้บัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
•เพราะบางครั้งอาจจะพบโปรโมชั่นซ้อนโปรโมชั่น คือห้างนั้นๆ อาจจะมีโปรแกรมให้แลกของด้วยหากใช้บัตรของห้างนั้นเอง เช่น ห้างเซ็นทรัล ที่มีเป็นครั้งคราว ถึงตรงนี้ ก็คงจะอยู่ที่ว่า ของที่ให้แลกนั้น ของใคร “โดนใจ” มากกว่ากัน รวมถึงว่าของใคร ได้ง่ายกว่ากัน
นอกจากนั้น บางครั้งยังมีถึง 2 เด้ง เช่น บางแผนกในห้าง จะมีการส่งเสริมการขาย โดยการซื้อถึงเท่าไหร่ ไม่ว่าใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือเงินสด จะสามารถนำไปแลกของได้อีก ที่พบเห็นส่วนมาก จะเป็นแผนกเครื่องสำอางของห้างใหญ่ๆ ที่แจกกันแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะของ จะเป็นของราคาสูง โดยมาก ของแจกของแถม จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตารีด เครื่องอบ เครื่องบด ไปจนถึงตู้เย็น เป็นต้น
ส่วนลดหรือโครงการแลกแจกแถมที่เล่ามา เป็นเรื่องที่ผู้ใช้บัตรจะได้รับของเลย ณ ที่นั้น เวลานั้น ซึ่งเรียกว่า instant win บางครั้ง ผู้ออกบัตรเครดิต อาจจะจูงใจผู้ใช้บัตร ด้วยการให้รางวัลใหญ่ เช่น บ้าน รถยนต์ หรือของที่มีมูลค่ามากๆ แต่จะเป็นลักษณะของการเสี่ยงดวง คือการจับสลาก ซึ่งผู้ถือบัตรก็ต้องไปคอยลุ้นต่อไป
เท่าที่ดิฉันมีประสบการณ์มา คนไทยจะชอบ instant win มากกว่า อาจจะเป็นเพราะปู่ย่าตายายของเราเคยพูดว่า “กำอุจจาระ ดีกว่ากำผายลม” (สุภาพดีนะคะ) ก็เลยคิดว่าเอาอะไรแน่ๆ ดีกว่า แต่ก็มีผู้สนใจร่วมโครงการไม่น้อยนะคะ
บริษัทบัตรเครดิตบางบริษัท ก็ได้มีการพัฒนาวิธีการให้รางวัล แทนที่ลูกค้าจะต้องสมัครใจส่งคูปองชิงโชคเพื่อจับสลาก ก็ใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผู้โชคดีออกมา โดยไม่ต้องส่งคูปองชิงโชค แล้วให้รางวัลเลย
ดิฉันเคยโชคดีครั้งหนึ่ง โดยมีชื่อตัวเองประกาศในหนังสือพิมพ์ โดยไม่ได้ส่งคูปองชิงโชค ได้รางวัล 2,000 บาท แต่ถูกแซวไม่เลิกเลย เพราะกลายเป็นบัตรเครดิตของสถาบันการเงินอื่น จนถึงต้องชี้แจงว่าเป็นการทดลองใช้บริการ และสำรวจตลาดค่ะ สรุปแล้วงานนั้น เลยกลายเป็น presenter ด้วยค่าตัว 2,000 บาทไปโดยปริยาย
คราวหน้าจะถึงเรื่องสะสมแต้มเพื่อแลกของแล้ว อดใจรอหน่อยนะคะ
สนใจสอบถามข้อมูลสามารถส่งมาได้ที่ dcharlotte@krungsri.com หรือ หมายเลขโทรสาร 02-683-1604