xs
xsm
sm
md
lg

หมอไทยเจ๋ง! ฝรั่ง จีน ยังต้องวิ่งตาม / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“โอ๊ย..มึน” คุณชูสง่ากุมหัว

“เป็นไรครับเฮีย”

พี่หมอก็มึนกับอาการของเฮีย “ก็เรื่องวัคซีนไขว้นะซิ ทำเฮียไขว้เขวเลย...ขอเป็นลมแป๊ปนะ”

“โอเค...เดี๋ยวหายแล้วผมจะคลายปมให้” พี่หมอหัวเราะ ฮึๆ...

การสลับชนิดของวัคซีน การศึกษาวิจัยนำปสู่การปฏิบัติจริง

อาจารย์ ยง ภู่วรวรรณ กล่าวว่า ทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ได้มุ่งมั่นทำการศึกษาวิจัย โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และคณะแพทย์มากว่า 30 ชีวิตที่ทำอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องวัคซีน ที่มีโครงการทำอยู่มากว่า 5 โครงการ เพื่อนำมาใช้อย่างเร่งด่วนภายในประเทศไทย ให้เหมาะกับทรัพยากรที่มีอยู่ และการสลับชนิดของวัคซีน เราทำมาตลอด และเห็นว่า การให้วัคซีนเข็มแรกเป็นชนิดเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัส Vector จะกระตุ้นได้ดีมาก

การให้วัคซีนเชื้อตายที่เป็นไวรัสทั้งตัว เปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายเราเคยติดเชื้อ และมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาระดับหนึ่ง หรือสร้างความคุ้นเคยกับระบบภูมิต้านทาน ต่อมาเมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนต่างชนิด โดยเฉพาะไวรัส Vector จะปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Booster Effect” เหมือนกับคนที่หายจากโรคโควิด 19 แล้วและได้รับวัคซีนเสริมอีก 1 ครั้ง ก็จะมีการกระตุ้นภูมิต้านทานขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเราก็ได้ทำการทดลองแล้ว

การศึกษานี้ เราไม่ได้ทำเฉพาะการตรวจภูมิต้านทานเท่านั้น เรายังได้ทำ Inhibition Test ที่สามารถขัดขวางไวรัสได้ดีมาก เฉลี่ยถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และมีหลายรายถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ในทำนองเดียวกัน การให้เชื้อตาย 2 เข็ม ยิ่งสอนให้ร่างกายเหมือนกับติดเชื้อแบบเต็ม ๆ หรือแบบรุนแรง แล้วเมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนไวรัสแบบ Vector จึงมี Booster Effect ที่สูงมาก และการศึกษาวิจัยของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เรากำลังทำการศึกษากับสายพันธุ์ที่กลายเป็น Delta และระบบภูมิคุ้มกันชนิดที่เราเรียกว่า T-Cell หรือ CMIR (Cell-mediated immune response) ซึ่งแน่นอนการศึกษานี้ ฝรั่งไม่ทันแน่นอน เพราะฝรั่งไม่ได้ใช้วัคซีนเชื้อตาย และจีนก็ไม่ได้ใช้วัคซีนไวรัส Vector อย่างกว้าขวางในขณะนี้

ข้อมูลขณะนี้ผมมีเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะสรุปได้ เพราะทุกท่านให้ความร่วมมือดีมาก รวมทั้งอาสาสมัครที่อยู่ในการศึกษาเป็นจำนวนมาก ผมต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง ซึ่งข้อดีที่ทำให้กระทรวงสาธารณสุขยอมรับและนำมาปรับใช้ในเชิงนโยบายจากการศึกษาครั้งนี้ คือ

1. ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีน ได้ภูมิต้านทานที่สูงภายในเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าการให้วัคซีนไวรัส Vector ในประเทศไทยที่จะได้ภูมิต้านทานสูง ซึ่งต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์ ดังนั้น จึงเป็นการเหมาะสมกับการที่โรคกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรารอไม่ได้

2. เป็นการปรับใช้ทรัพยากร ที่เรามีอยู่ในขณะนี้และมีจำกัด ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

3. การกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย วัคซีนไวรัส Vector สามารถทำให้เกิดภูมิต้านทานได้สูงมาก โดยไม่ต้องรอวัคซีนชนิดอื่น เพื่อประโยชน์ของบุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้ในขณะนี้ มีเป็นจำนวนมากพอ โดยเฉพาะข้อมูลการฉีดสลับเข็ม ซึ่งถูกบันทึกไว้ในหมอพร้อม มากกว่า 1,200 ราย และพบว่าผู้ได้รับการฉีดสลับเข็มไม่มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น