เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 ณ โรงแรมโกลเดนทิวลิป "ทนายอ๊อด" ภีมเดช อมรสุคนธ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่ตนได้ยื่นฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ข้อหาจัดการทรัพย์สินผู้อื่นตามที่ได้รับมอบหมายโดยทุจริต
"ขณะนี้ผมกำลังฟ้องพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และคณะ ในฐานะที่ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสียหาย กรณีเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทแพลนบี ได้ค่าสิทธิ์ประโยชน์ไปหลายร้อยล้าน เข้าข่ายการทุจริต ทั้งนี้ผมฟ้องอาญานะครับไม่ได้ฟ้องแพ่ง" นายภีมเดช เริ่มกล่าว
"มันเข้าข่ายทุจริตที่แพลนบีไม่มีหนังสือค้ำประกันจำนวน 510 ล้าน มาให้สมาคมฯ ในวันยื่นประมูล และนับถึงปัจจุบันทางแพลนบีก็ยังไม่มีให้ แต่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และคณะ ซึ่งเป็นกรรมการ แอบอนุมัติให้แพลนบีให้สัญญาไป และเป็นการอนุมัติย้อนหลังด้วย"
"คือเมื่อตอนนั้น สมาคมฯ ให้สิทธิ์กับแพลนบีมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นเวลาที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังติดสัญญาอยู่กับสยามกีฬาในปี 2559 และพอท่านยกเลิกปุ๊บก็เอาสัญญาของสยามกีฬามาเซ็นย้อนหลังให้แพลนบี ในปีนั้นแพลนบีได้บริหารจัดการไปฟรีๆมูลค่า 100 กว่าล้าน ทำให้สยามกีฬาเขาถึงต้องไปฟ้องร้อง ซึ่งอันนั้นศาลมีคำสั่งมาแล้วว่าสมาคมฯ ต้องจ่ายให้สยามกีฬา 50 ล้าน มันเป็นเรื่องต่อเนื่องกัน"
"ง่ายๆคือปี 2559 สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังติดสัญญากับสยามกีฬาอยู่ เป็นผู้หาเงินหาสปอนเซอร์เข้าสมาคมฯ อย่างมากมาย มีภาระผูกพันจนถึงปี 2559 พอท่านสมยศเข้ามาเขาก็ดำเนินการอย่างที่ได้กล่าวไป ในเรื่องเดียวกันศาลพิพากษาให้สมาคมฯต้องจ่ายให้สยามกีฬา 50 ล้าน วันนี้หลักฐานต่างๆพิสูจน์แล้วว่าท่านทุจริต ผมไม่ได้ฟ้องสภากรรมการนะ ผมฟ้องแค่ท่านสมยศ และคณะทำงาน 5 ท่าน ในนั้นมีสภากรรมการ 2 ท่าน ได้แก่ พล.ต.อ.สมยศ และคุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ ซึ่งตอนนั้นได้รับมอบให้บริหารจัดการทรัพย์สินของสมาคมฯ ซึ่งมีการบริหารโดยทุจริต การทุจริตของท่านทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย"
"มันเป็นโทษทางอาญาครับ ต้องติดคุก และอีกเรื่องคือการที่ท่านสมยศแสดงเอกสารเท็จให้แก่ ป.ป.ช.ว่าได้รับเงินเดือนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ 3 ล้านกว่า แต่จริงๆท่านได้มา 6 ล้านกว่า อันนั้นผมก็จะฟ้องต่อเหมือนกัน ที่ท่านรับเงินเดือนทั้งหมดมันผิดพ.ร.บ.กีฬา และยังไปจัดสรรเงินเดือนพิเศษให้กับ 4 ท่าน ได้แก่ ท่านสมยศ, คุณลัขณานันท์, โค้งเฮง และมีอีกท่านหนึ่ง ผมก็จะฟ้องต่อ แต่ด้วยเหตุที่ท่านหาว่าผมมาป่วนก็ไม่เป็นไร ผมรอฟ้องหลังเลือกตั้ง ทั้งนี้ผมมีหลักฐานที่แน่นหนา"
"สรุปเลยนะครับ ผมจะฟ้องท่านสมยศทั้งหมด 5 คดี โดย 3 เรื่องแรก ได้แก่ เรื่องแพลนบี, เรื่องการจ่ายเงินเดือน และคดีป.ป.ช. ซึ่งจะมีฟ้องเพิ่มอีก 2 ในกรณีของแพลนบีที่ไปรับสัญญาของไทยลีกอีก เป็นคนละตัวกัน ต่างกรรมต่างวาระ มูลค่าเงินไม่เท่ากัน รวมทั้งหมดแล้ว 5 เรื่อง ผมดำเนินการไปฟ้องที่ศาลแขวงพระนครใต้ แม้โทษมันจะน้อยไม่เกิน 3 ปี แต่ผมก็จะทำ"
"ทั้งนี้มีผู้หาว่าผมเป็นตัวแทนของฝั่งคุณวรวีร์ ผมจะเรียนให้ทราบว่า คราวที่แล้วที่คุณวรวีร์ลงสมัครเลือกตั้งนายกฯไม่ได้ก็เพราะใคร ก็เพราะผมฟ้องคุณวรวีร์ ถ้าจะคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ผมก็พิสูจน์กับประชาชนมาตลอดว่าผมก็ทะเลาะกับทุกนายกสมาคมฯ แหละ ที่บริหารโดยมิชอบ ผมยืนยันเมื่อผมเจอท่านทั้งสองทั้งท่านวรวีร์ และท่านสมยศ ผมก็กราบเหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เปรียบเสมือนพี่" ทนายอ๊อด กล่าว
