พูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าไม่มีผู้หญิงที่ชื่อ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ฟุตบอลสาวทีมชาติไทย ไม่มีทางสร้างประวัติศาสตร์ไปเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยที่ 2 ติดต่อกันอย่างแน่นอน
ที่ต้องโปรยเช่นนี้เพราะว่าฟุตบอลโลก 2019 ที่โม่แข้งกันอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสเวลานี้มีชาติหนึ่งที่มีผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งที่เหมือน "มาดามแป้ง" ก็คือเธอพาแม่เนื้ออ่อนของ จาไมก้า ไปอวดฝีเท้า ที่สำคัญหญิงสาวคนนี้เป็นลูกสาวของ บ็อบ มาร์เลย์ ตำนานนักร้องเร็กเก้ ซึ่งอะไรทำให้เธอมาปลุกปั้นทีมนี้ "เทเลกราฟ" สื่อดังของอังกฤษ ได้นำเรื่องราวมาเผยแพร่ ซึ่งเราขออาสานำมาถ่ายทอดดังต่อไปนี้
ลูกสาวของ บ็อบ มาร์เลย์ มีชื่อว่า เซเดลล่า คำถามก็คืออะไรที่ทำให้เธอตัดสินใจปลุกปั้น "เร็กเก้ เกิร์ลซ์" (Reggae Girlz) เพราะว่าขนาด สหพันธ์ฟุตบอลจาไมก้า ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบยังไม่เหลียวแลและถ้าจะทำต้องเริ่มจากตรงไหน เนื่องจากฟุตบอลระดับอาชีพหญิงภายในประเทศก็ไม่มี เรียกได้ว่าเริ่มจากศูนย์เลยก็ว่าได้
แรงบันดาลใจแรก
แรงบันดาลใจแรกของ เซเดลล่า ที่ทำให้ลงมือจับฟุตบอลหญิงจาไมก้าก็คือผู้เป็นพ่อ บ็อบ มาร์เลย์ เธอเล่าว่า "ฉันสาบานได้เลยว่าถ้าพ่อไม่เล่นกีตาร์หรือร้องเพลง เขาคงจะไปเป็นกองหน้าหรือไม่ก็กองกลาง" หยุดหัวเราะร่วนพร้อมเล่าต่อว่า "พ่อเป็นคนตัวเล็กก็จริง แต่เขามีฝีเท้าที่เร็วและเหนืออื่นใดคือรักฟุตบอลแน่นอน"
เซเดลล่า ยังยอมรับอีกว่าเดิมทีแทบไม่รู้เลยว่า จาไมก้า นั้นมีลูกหนังหญิงด้วย ดังนั้นอีกเหตุผลที่ตัดสินใจในครั้งนี้ก็คือวันหนึ่งลูกชายกลับมาบ้านโดยในเป้มีใบปลิวเกี่ยวกับโครงการฟุตบอลหญิงจาไมก้าเหน็บอยู่ "ทันทีที่เห็นฉันสนใจและรู้เลยว่าเราต้องสนับสนุนสิ่งนี้"
กระนั้นก็ตาม เซเดลล่า เจอขวากหนามตั้งแต่แรกเริ่ม โดยหลังจากเห็นใบปลิววันรุ่งขึ้นก็ยกโทรศัพท์โทรไปที่ สหพันธ์ฟุตบอลจาไมก้า พร้อมกับได้รับคำตอบว่า "คุณปัญหานี้มันใหญ่เกินกว่าที่จะรับมือได้ เพราะมันไม่ใช่แค่คุณเรี่ยไรเงิน 10 หรือ 15 เหรียญแล้วก็จบนะ"
สิ่งที่ เซเดลล่า ค้นพบก็คือฟุตบอลหญิงจาไมก้าถูกยุบและทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่สนใจตั้งแต่ปี 2006 เนื่องจากว่าไม่มีเงินทุน สหพันธ์ฯ นั้นมีเงินสำหรับฟุตบอลชายเท่านั้น นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ตกตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก็คือบรรดา "เร็กเก้ เกิร์ลซ์" ต้องนั่งซักผ้าด้วยตนเอง ปัจจัยสำคัญขั้นพื้นฐานก็ไม่มี เสื้อชั้นในเฉพาะที่สำหรับใส่เล่นฟุตบอลหรือเล่นกีฬาคืออะไรคนเหล่านั้นแทบไม่รู้จัก อาหารการกินมีแค่สแน็กบาร์ เนื้อสัตว์หรือนมไข่ไม่เงินซื้อ
ความโกรธคือแรงผลักดัน
เมื่อเห็นเช่นนั้น เซเดลล่า โกรธอย่างมาก แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เธอถอดใจ เธอใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่ต้องการปลุกฟุตบอลหญิงกลับมาลืมตาอ้าปากให้ได้
ดังนั้นเมื่อปี 2014 เซเดลล่า จึงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะทำฟุตบอลหญิงจาไมก้า พร้อมกับเดินเข้าไปคุยกับทาง สหพันธ์ฯ สิ่งที่จำเป็นก็คือต้องหาเงินและนำทีมเข้าไปแข่งทัวร์นาเมนต์ที่รับรองโดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ให้จงได้ เพื่อที่จะได้โควต้าไปเตะแต่ละระดับชาติอันหมายถึงจะได้เงินสนับสนุนที่จะตามมา
เซเดลล่า ปัจจุบันวัย 51 ปีนั้นมีเงินจาก มูลนิธิ บ๊อบ มาร์เลย์ ที่เธอดูแลอยู่ แต่ไม่ใช่แค่นำเงินนั้นมาทำทีม เธอคิดเยอะว่านั้นคือนำเงินมาผุดแคมเปญ "Strike Hard for the Reggae Girlz!" เพื่อต่อยอดจัดหาเงินมาเป็นค่าเดินทาง อาหาร ที่พัก และอุปกรณ์ต่างๆ ให้นักเตะหญิงจาไมก้า
ข้อดีอีกอย่างก็คือ จาไมก้า มีนักกีฬาชื่อดังอยู่หลายต่อหลายคนหนึ่งในนั้นก็คือ ยูเซน โบลท์ นักวิ่งสถิติโลกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ที่มาช่วยระดมเงินทุนได้มากมายพอสมควรและยังมีคนดังระดับเซเล็บมากมาย
แต่ทุกอย่างไม่ง่ายเลย เพราะว่า จาไมก้า วืดไปเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2015 ตามมาด้วยการที่ เซเดลล่า คืนสิทธิ์ให้กับ สหพันธ์ฯ ไปบริหารกันเอง ซึ่งก็เข้าสู่อีหรอบเดิม ลูกหนังหญิงถูกทิ้งๆ ขว้างๆ ทำให้ลูกสาวของ บ็อบ มาร์เลย์ กลับมาเดินหน้าทำทีมอีกครั้งหนึ่ง
วันที่สำเร็จก็มาถึง
จนมาถึงศึกฟุตบอลหญิงโซนคอนคาเคฟเมื่อเดือนตุลาคมปี 2018 มีทั้งหมด 8 ทีมลงชิงชัยเพื่อที่จะคัด 3 ทีมไปเตะฟุตบอลโลก 2019 รอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส จาไมก้า คว้าอันดับ 2 กลุ่ม บี โดยเอาชนะ คอสต้า ริก้า 1-0 กับชนะ คิวบา 9-0 และแพ้ แคนาดา 2-0 เข้าสู่รอบรองฯ จาไมก้า แพ้ สหรัฐอเมริกา 0-6 แต่นัดสำคัญคือชิงที่ 3 เพื่อตั๋วใบสุดท้าย "เร็กเก้ เกิร์ลซ์" เอาชนะจุดโทษ ปานามา 4-2 หลังจากเสมอ 2-2 วินาทีนั้นนอกจากความดีใจก็คือน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา
จาไมก้า ทีมที่อันดับต่ำที่สุดใน เวิลด์ คัพ 2019 เสร็จภารกิจแล้วแล้วโดยแพ้ บราซิล 0-3, แพ้ อิตาลี 0-5 และยิงประตูแรกในประวัติศาสตร์เกมสุดท้ายของกลุ่มที่แพ้ ออสเตรเลีย 1-4 แม้ต้องกลับบ้านก่อน แต่กลับไปพร้อมความสำเร็จเปรียบเสมือนได้แชมป์ เหนืออื่นใดก็ต้องขอบคุณลูกสาวแห่งตระกูลมาร์เลย์ผู้ชุบชีวิต "เร็กเก้ เกิร์ลซ์"
