คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อต้นปีได้ยกเรื่องกฎใหม่ของ WBC ในการทำน้ำหนัก ว่าต้องมีการชั่งตรวจสอบเป็นระยะๆ ถี่ขึ้น และลดเกณฑ์ที่ให้นักมวยมีน้ำหนักเกินพิกัดได้เมื่อใกล้วันชก รวมถึงน้ำหนักเช้าวันชกก็ต้องเพิ่มขึ้นโดยอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม พอดีสัปดาห์ที่แล้วในรายการ MMA รายการใหญ่ของโลกจากสถาบัน UFC ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากเกี่ยวกับผลของการทำน้ำหนัก เลยจะขอยกมาคุยกันหน่อย
โดยศึกที่ว่าเป็นรายการ UFC Fight Night ระเบิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 19 มกราคม ที่สังเวียนบาร์เคลย์ เซ็นเตอร์ ในย่านบรู๊คลิน นิวยอร์ก เป็นศึกป้องกันเข็มขัดแชมป์ในรุ่นฟลายเวท พิกัด 125 ปอนด์ ซึ่งเจ้าของตำแหน่งคือเฮนรี่ เชจูโด้ นักสู้ MMA ชาวอเมริกัน ป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งแรกหลังจากล้มนักสู้คนดังอย่างเดเมเทรียส จอห์นสันได้แบบพลิกล็อกเล็กๆ ป้องกันเข็มขัดครั้งแรกเจอของแข็งเลยคือเจอกับ ที.เจ.ดิลลาชอว์ นักสู้ยอดฝีมืออีกรายที่เป็นแชมป์ในรุ่นแบนตั้มเวท พิกัด 135 ปอนด์ของ UFC อยู่ ทำน้ำหนักลงมาท้าชิงหวังเป็นเจ้าของแชมป์ 2 รุ่นในเวลาเดียวกัน
แต่พิกัดน้ำหนักของรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมนี่ แต่ละรุ่นห่างกันมากถึง 10 ปอนด์ ทำให้การทำน้ำหนักเป็นไปด้วยความยากลำบาก ที.เจ.ดิลลาชอว์นั้นมีการวางแผนทำน้ำหนักมาอย่างดี แต่วันชั่งน้ำหนักจะเห็นเลยว่ารูปร่างซูบเซียวผอมแห้งเลยทีเดียว สุดท้ายชั่งน้ำหนักผ่านที่ 124.6 ปอนด์ แต่ตอนขึ้นเวทีก็ได้เติมน้ำหนักกลับเข้าไปดูรูปร่างสมบูรณ์ดี พอระฆังเริ่มทางเจ้าของตำแหน่งอย่างเฮนรี่ เชจูโด้ ปรี่เข้าใส่แล้วประเคนอาวุธทั้งหมัดเท้าเข้าใส่ทันที ทางดิลลาชอว์นั้นพยายามออกอาวุธสู้แต่เห็นชัดว่าเชื่องช้าลงไปเยอะ โดนหมัดของเชจูโด้ประเคนแบบเต็มๆ จนร่วง เจ้าของเข็มขัดตามติดออกหมัดเป็นชุดจนดิลลาชอว์ได้แต่ปัดป้อง แต่ปฏิกิริยาช้ามากรับหมัดเต็มๆ จนถลาแล้วถลาอีก สุดท้ายกรรมการยุติการต่อสู้ด้วยเวลาเพียง 32 วินาทีในยกแรกเท่านั้น ที.เจ.ดิลลาชอว์ ผิดหวังไม่สามารถคว้าแชมป์รุ่นที่ 2 ได้
จบการต่อสู้ทางดิลลาชอว์ออกมาโวยกรรมการสุดเหวี่ยงว่าจับเขาแพ้เร็วไปมาก ยังไม่เป็นไรเลยยังสู้ได้ และว่ากรรมการทำให้เขาชวดเงินล้านจากการที่จะได้ครองเข็มขัดสองเส้นพร้อมๆ กัน รวมทั้ง “ดาน่า ไวท์” ประธานจอมโวยของ UFC ก็ออกมาโวยแบบเข้าข้างดิลลาชอว์เต็มตัวว่ากรรมการยุติการต่อสู้เร็วเกินไป แต่ทางกรรมการและฝ่ายการแพทย์ก็ออกมาให้ความเห็นในเชิงวิทยาศาสตร์การกีฬาว่า นักกีฬาที่ลดน้ำหนักมากๆ ร่างกายจะขาดน้ำ แม้จะเติมกลับเข้าไปแล้วก่อนขึ้นเวทีแต่การขาดน้ำในเซลล์ต่างๆ ก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะกับเซลล์สมอง และทำให้สมองรับการกระทบกระเทือนได้น้อยลงกว่าปกติ นักสู้อาจไม่รู้สึกอะไรแต่ผลกระทบระยะยาวจะไม่ดีกับตัวนักสู้แน่นอน ซึ่งเราก็พอเห็นจากคลิปวิดีโอการต่อสู้ว่าปฏิกิริยาของดิลลาชอว์นั้นช้าไปเยอะไม่สามารถป้องกันตัวได้
ก็ถือเป็นบทเรียนที่อยากให้คนวงการมวยหรือวงการต่อสู้บ้านเราดูกันเอาไว้นะครับ ขนาดนักสู้ระดับโลกที่มีแผนการทำน้ำหนักอย่างดียังเจอผลกระทบจากการทำน้ำหนัก นักสู้บ้านเราที่ทำน้ำหนักกันแบบบ้านๆ ก็น่าเป็นห่วง ยังไงก็ขอให้มีการวางแผนมีการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาดูแล และถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ให้ขยับขึ้นสู้ในรุ่นที่เหมาะสมดีกว่าที่จะเกิดผลเสียกับร่างกายของนักสู้หรือนักมวยเราในระยะยาวนะครับ