xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาของ “ก้อง-สมเกียรติ” แชมป์เอเชียสู่เวทีโลก “โมโตทู”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สมเกียรติ จันทรา สู่โมโตทู
ผู้จัดการรายวัน 360 – ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2018 รูดม่านครบทุกรุ่นในสนามสุดท้ายที่ บาเลนเซีย โดยนักแข่งไทยอย่าง นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ สังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อำลาเวทีรุ่นโมโตทรีอย่างน่าประทับใจเมื่อซิ่งคว้าอันดับ 8 เก็บคะแนนรวมปิดฤดูกาลที่ 12 คะแนนตลอด 19 สนาม ก่อนส่งไม้ต่อให้ฮีโร่คนใหม่อย่าง สมเกียรติ จันทรา ไปลุยต่อกับสังเวียนที่ใหญ่ขึ้นคือ โมโตทู 2019

หลังจบฤดูกาล2018 อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ทีมแข่งสัญชาติญี่ปุ่น ตัดสินใจเปลี่ยนไลน์นักบิดในรุ่นโมโตทรี และ โมโตทู ซึ่งหมายความว่า “เจ้าชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดสัญชาติไทยหนึ่งเดียวที่โลดแล่นกับทีมมาตั้งแต่ปี 2018 ต้องยุติบทบาทในเวทีโลกไว้เท่านี้ กระนั้นกลายเป็นนักบิดชาวไทยอีกคนที่ได้รับโอกาสสำคัญในปีหน้าเมื่อ “เจ้าก้อง” สมเกียรติ จันทรา ถูกใส่ชื่อลงเป็นนักแข่งในรุ่นโมโตทู เคียงข้าง ดิมาส เอ็คกี พราทาม่า จากอินโดนีเซีย

ในแวดวงกีฬามอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย สมเกียรติ จันทรา ไม่ใช่คนแปลกหน้าของวงการ แต่เป็นนักซิ่งที่มีความสามารถระดับแนวหน้า ผลงานสร้างชื่อคือคว้าแชมป์เยาวชนของเอเชีย “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” เมื่อปี 2016 ก่อนถูกผลักดันลงแข่งรายการอื่นสั่งสมประสบการณ์ให้แน่นปึ้กทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิป, ซีอีวี เรปโซล โมโตทรี รวมถึงสิทธิไวลด์การ์ดลงบิด โมโตจีพี ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา

แม้จะเป็นมือใหม่ในเวทีโลกแต่การชิงชัยที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สมเกียรติ แสดงฝีมือไม่เป็นรองนักบิดสัญชาติยุโรปเมื่อซิ่งคว้าอันดับ 9 ในโฮมเรซของตัวเองต่อหน้าผู้ชมเจ้าถิ่นมากันอย่างคับคั่ง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เลือกดาวรุ่งวัย 19 ปี มาเป็นขุนพลชุดโมโตทู ฤดูกาลหน้า ที่จะเปิดสังเวียนแรกที่ กาตาร์ วันที่ 10 มีนาคม ก่อนล่าแต้มจนถึงสนามสุดท้ายที่ บาเลนเซีย เช่นเดิม

นักบิดหนุ่มที่ได้รับการสนับสนุนโดย เอ.พี.ฮอนด้า เติบโตขึ้นมาแคมป์อะคาเดมี ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล เผยถึงโอกาสครั้งใหญ่ที่เข้ามาว่า “ขอบคุณทาง เอ.พี.ฮอนด้า และทีมงานของญี่ปุ่นที่มอบโอกาส ดีใจมากที่ทางผู้ใหญ่มองเห็นความสามารถของผม โดยเฉพาะรายการ ซีอีวี เรปโซล โมโตทรี ในยุโรปที่เก็บแต้มได้หลายสนาม รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ลงแข่งมาหลายเวที แม้จะรู้สึกกังวลบ้างเพราะถูกผลักดันขึ้นไปขี่ในรุ่นที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็อีกหลายเดือนกว่าจะถึงฤดูกาลใหม่ดังนั้นขอใช้เวลานี้ศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม”

การลงสนามแข่ง โมโตทู ทำให้นักบิดหมายเลข 35 กลายเป็นนักซิ่งรายที่ 3 ของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่ได้ลุยสังเวียนนี้ต่อจาก รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ และ ฐิติพงษ์ วโรกร ที่แผ้วถางทางไว้ก่อนหน้า โดยเฉพาะ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ ที่เป็นคนเปิดประตูให้ทุกคนเดินตามกันมา “พี่ฟิล์ม คอยสอนผมหลายอย่าง ซึ่งในรุ่นโมโตทูผมคงได้เรียนรู้จากเขามากขึ้นตามสนามต่างๆ ส่วนกับทีมงานของญี่ปุ่นก็ได้คุยกันบ้างแล้วก่อนจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มตัวในช่วงเทสต์นี้”

สำหรับ สมเกียรติ และคู่เมทคนใหม่ ดิมาส เอ็คกี พราทาม่า เวลานี้กำลังทำความคุ้นเคยกับรถใหม่ของ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในการทดสอบรถปิดฤดูกาล 2018 ที่เฆเรซ แม้ยังเกาะกลุ่มท้ายตารางอยู่แต่ถือว่ายังมีเวลาอีกมากโขให้นักบิดชาวไทยได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆรวมถึงการเทสต์รถปี 2019 ก่อนออกสตาร์ทของจริงที่ กาตาร์

ถือว่าเป็นไปตามโรดแม็ปยุทธศาสตร์ของ เอ.พี.ฮอนด้า สำหรับแผนการผลักดันนักบิดชาวไทยสู่เวทีโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญคือส่งนักบิดสัญชาติไทย 100% เข้าร่วมบิดในรุ่นใหญ่ โมโตจีพี ภายในปี 2025 ให้เป็นที่ภาคภูมิใจของแฟนมอเตอร์สปอร์ตในประเทศ กระนั้นเองหาก สมเกียรติ แสดงฝีมือได้อย่างดีตั้งแต่ฤดูกาลแรก เป้าหมายของ เอ.พี.ฮอนด้า และความฝันของคนไทยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นเป็นได้
โชว์ฟอร์มประทับใจที่บุรีรัมย์
ลีลาคว้าอันดับ 9 โฮมเรซ
ลงเทสต์กับทีมใหม่
สองผู้บริหารจากญี่ปุ่นไว้วางใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น