xs
xsm
sm
md
lg

“ช้างศึก” หืดจับ บุกเจ๊า “ปินอย” 1-1 ลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้ายซูซูกิ คัพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปเก็บผลเสมอถึงบ้าน ฟิลิปปินส์ 1-1 แบบหืดจับ เก็บ 1 แต้มกลับบ้านชนิดที่รูปเกมเป็นรองคู่แข่งพอสมควร เกมหน้ารอดวล สิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เป็นการลงสนามนัดที่ 3 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ระหว่าง ฟิลิปปินส์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไทย ที่ปานัด สเตเดียม เมืองบาโคลอด ประเทศฟิลิปปินส์

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ทีม “ช้างศึก” ปรับทัพเล็กน้อยด้วยการส่ง ปกเกล้า อนันต์ ลงมาคุมเกมแดนกลางร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ รวมไปถึงส่ง ศุภชัย ใจเด็ด ลงเล่นศูนย์หน้าร่วมกับ อดิศักดิ์ ไกรษร

ทางฝั่งฟิลิปปินส์ ของกุนซือ สเวน โกรัน อีริคสัน นำทัพมาโดย 3 แข้งตัวหลัก อย่าง มานูเอล อ็อตต์, สตีเฟ่น ชร็อค และฟิล ยังฮัสแบนด์ โดยมี มิเชล ฟัลเคสการ์ด นายประตูที่ค้าแข้งอยู่กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทยลีก ยืนเฝ้าเสา

เริ่มต้นเกมเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้เยอะกว่า มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคม โดยทีมชาติไทยอาศัยการแพ็คเกมรับที่เหนียวแน่นตามแท็คติกของ มิโลวาน ราเยวัช รอจังหวะโต้กลับได้น่ากลัวหลายครั้ง แต่สุดท้ายทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งเวลาหลังยังคงเป็น ฟิลิปปินส์ ที่เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่ “ช้างศึก” ยังเล่นเกมรับกันได้อย่างมีวินัยจนเจ้าถิ่นเจาะไม่เข้า

น.55 แม้ไทยจะมีรูปเกมที่เป็นรองเล็กน้อย แต่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฟิลิป โรลเลอร์ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางมาให้ ศุภชัย ใจเด็ด วิ่งมายิงตามน้ำเข้าไป ถือเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้

หลังเสียประตูเกมของฟิลิปปินส์ดูจะดร็อปลงไปพอสมควร กลายเป็น ไทย ที่กลับมาครองบอลได้เยอะกว่าพอสมควร แม้เจ้าถิ่นจะพยายามต่อบอลเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่ยังไม่สามารถทำอะไรแนวรับของไทยได้

น.66 ไทย เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก นำ ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมาเล่นแทนที่ของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ถือเป็นการลงสนามนัดแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ของดาวเตะจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฟิลิปปินส์ พยายามดันสูงขึงเกมบุกเข้าใส่ทีมชาติไทยเพื่อทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ไทยยังอาศัยเกมรับที่เหนียวแน่นต้านทานเกมรุกของเจ้าถิ่นเอาไว้เป็นอย่างดี และรอจังหวะสวนกลับได้น่ากลัวหลายครั้ง

แต่แล้วนาทีที่ 80 กลายเป็นฟิลิปปินส์ ที่ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะลูกยิงนอกกรอบของ โจวิน เบดิช ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 78 บอลไปแฉลบแนวรับของไทยก่อนชนเสาเข้าประตูไปแบบงงๆ

นาทีที่ 88 ไทย เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สอง นำ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ลงมาเล่นแทน อดิศักดิ์ ไกรษร

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ฟิลิปปินส์ เปิดบ้านเสมอ ไทย 1-1 จากผลการแข่งขันดังกล่าว “ช้างศึก” ยังคงนำจ่าฝูงของกลุ่ม บี มี 7 คะแนนจาก 3 นัด เท่ากับฟิลปปินส์ แต่ลูกได้เสีย +9 ดีกว่า “ปินอย” ที่ +2 อยู่ 7 ลูก

โปรแกรมนัดถัดไป ทีมชาติไทย จะเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนรับการมาเยือนของ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นเกมที่แย่งกันเข้ารอบต่อไปโดยตรง แข่งขันเวลา 19.00น. ช่อง 7 HD ถ่ายทอดสด

ซึ่งเกมถัดไปหากขุนพล “ช้างศึก” เก็บได้เพียง 1 คะแนน จะเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายทันที โดยไม่ต้องรอลุ้นผลการแข่งขันของคู่ระหว่าง อินโดนีเซีย พบ ฟิลิปปินส์ และหากทีมชาติไทย เก็บ 3 แต้มเหนือสิงคโปร์ได้ จะตบเท้าผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม

ผลการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ในวันเดียวกัน : สิงคโปร์ ชนะ ติมอร์ เลสเต 6-1

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฟิลิปปินส์ : มิเชล ฟัลเคสการ์ด (GK), ไดสึเกะ ซาโตะ, อัลวาโร่ ซิลวา, สเตฟาน พัลลา, คาร์ลอส อัลแบร์โต้ มาร์ติเนซ, สเตฟาน ชร็อค, มาร์ติน สตูเบิล, มานูเอล อ็อตต์, จอห์น-แพทริค สตรอสส์, แพทริค ไรเชลต์, ฟิล ยังฮัสแบนด์

ไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK), กรกช วิริยอุดมศิริ, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, ฟิลิป โรลเลอร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (น.66 ศศลักษณ์ ไหประโคน), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกเกล้า อนันต์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ศุภชัย ใจเด็ด, อดิศักดิ์ ไกรษร (น.88 ชนานันท์ ป้อมบุปผา)







กำลังโหลดความคิดเห็น