การแข่งขันฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2561 เป็นการลงสนามฟาดแข้งนัดที่ 32 ของฤดูกาล เกมที่น่าสนใจ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ที่ยังมีลุ้นแชมป์ในปีนี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวกัลตะ เซนได
เกมนี้ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกขวัญใจชาวไทย ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกให้กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า หลังจากเกมก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ประสานงานในแดนหน้าร่วมกับ แพทริค ดาวยิงบราซิเลียน
เริ่มเกม ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ครองเกมได้เหนือกว่า มีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่จังหวะจบสกอร์ยังขาดๆเกินๆ ส่วนทีมเยือนยังแทบไม่มีโอกาสลุ้นประตูเท่าไหร่ จบครึ่งแรกเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งเวลาหลัง เวกัลตะ เซนได แก้เกมมาได้ดีขึ้น เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง แต่ในนาทีที่ 52 ธีรศิลป์ แดงดา เปิดบอลสุดงามไปให้ แพทริค หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายช้าเกินไปจนโดน ดาเนียล ชมิดท์ ออกมาบล็อคเอาไว้ทัน
น.67 กลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ราม่อน โลเปส พักอกให้ นาโอกิ อิชิฮาระ ยิงแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งแรงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า จะพยายามเปิดเกมบุกอย่างเต็มที่เพื่อทำรประตูตีเสมอ แต่ก็ทำอะไรเกมรับของทีมเยือนไม่ได้
หมดเวลา 90 นาที ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า พ่ายคาบ้านให้กับ เวกัลตะ เซนได 0-1 ทำให้เจ้าถิ่นพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 5 ติดต่อกันในเกมลีก หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ทันที
และยังส่งผลให้ คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ที่แม้จะบุกพ่าย เซเรโซ่ โอซาก้า 1-2 คว้าแชมป์เจลีก ฤดูกาล 2018 ไปครองทันทีโดยไม่ต้องลุ้นผลการแข่งขันในอีก 2 เกมสุดท้าย เพราะมีแต้มห่าง 7 คะแนน