เอเยนซี - การแข่งขันกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรี ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 42 เตรียมกลับมาพบกับแฟนๆอีกครั้งในวันที่ 28-30 กันยายนนี้ ณ สนาม เลอ กอล์ฟ เนชันแนล อัลบาตรอส คอร์ส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเจอกันของ สหรัฐอเมริกา แชมป์เก่า ปะทะ ยุโรป อันเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าทั้งสองทีมต้องมาดวลกันในทุกๆ 2 ปี นับตั้งแต่จัดขึ้นครั้งแรกปี 1927 โดยตลอด 91 ปีที่ผ่านมา ไรเดอร์ คัพ ได้สร้างแมตช์แห่งความทรงจำไว้มากมาย และนี่คือ 9 แมตช์ยอดเยี่ยมที่ผู้จัด “ไรเดอร์ คัพ” ลงมติกันว่าเป็นการต่อสู้อันแสนประทับใจที่สุด
แจ๊ค นิคคลอส VS. โทนี แจ๊คคลิน (1969)
การชิงชัยวันสุดท้ายที่ รอยัล เบิร์กเดล กอล์ฟ คลับ โทนี แจ๊คคลิน ผู้เล่นไม้ตายของฝั่งอังกฤษ เผชิญหน้ากับการพัตต์ระยะ 3 ฟุตในหลุมที่ 18 ซึ่งปรากฏว่าเจ้าตัวทำพลาดพัตต์ไม่ถึงหลุม อย่างไรก็ตาม แจ๊ค นิคคลอส มือความหวังของเจ้าถิ่นที่เพิ่งเข้าร่วมศึกนี้เป็นครั้งแรก และมีโอกาสจะพัตต์เบอร์ดีเพื่อพา สหรัฐฯ เฉือนชนะ รู้สึกนับถือความใจสู้ของอีกฝ่าย จึงตัดสินใจพัตต์ลูกของตัวเองเสียแต้มไป เกมจึงจบลงที่สกอร์เท่ากัน 16-16 แต้ม กลายเป็น ไรเดอร์ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จบลงด้วยผลเสมอ แชมป์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา (ตามธรรมเนียม หากผลเสมอกัน ถ้วยจะตกเป็นของทีมที่เคยได้แชมป์ครั้งก่อน) ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ทำให้ นิคคลอส ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุภาพบุรุษตัวจริงแห่งวงการกอล์ฟ ส่วนเขากับ แจ๊คคลิน ก็กลายเป็นเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้
จัสติน เลียวนาร์ด VS. โชเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล (1999)
ไรเดอร์ คัพ แห่งความทรงจำที่กองเชียร์สหรัฐอเมริกาประทับใจไม่ลืม วันที่ 3 ของการแข่งขันที่ เดอะ คันทรี คลับ ทีมสวิงเมืองลุงแซม ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองเพราะตามหลังทีมยุโรป 6-10 แต้ม ไม่มีใครเชื่อว่าสหรัฐฯจะกลับมาได้ แต่ไม่ใช่กับ เบน เครนชอว์ กัปตันทีมที่เชื่อมั่นในตัวลูกทีมเต็มเปี่ยม ก่อนถึงแมตช์สำคัญคือการดวลกันของ เลียวนาร์ด และ โอลาซาบัล ซึ่งปรากฏว่าหลุม 17 ตัวแทนจากฝั่งยุโรปอย่าง โอลาซาบัล พัตต์เบอร์ดีหลุดเป้าหมาย แต่ เลียวนาร์ด ทำสำเร็จ แม้จบลงที่ผลเสมอ แต่คะแนนครึ่งหนึ่งที่ได้จากแมตช์นี้บวกกับขุนพลในทีมอย่าง ฟิล มิคเคลสัน, ไทเกอร์ วูดส์, จิม ฟิวริค และคนอื่นๆต่างเก็บชัยตุนมาก่อนหน้า ก็ทำให้ สหรัฐอเมริกา พลิกกลับมาชนะ 14.5-13.5 แต้ม คว้าแชมป์ท่ามกลางเสียงเฮของคนทั้งชาติ
แพทริค รีด VS. รอรีย์ แม็คอิลรอย (2016)
เดวิส เลิฟ เดอะ เธิร์ด กัปตันทีม ไรเดอร์ คัพ สหรัฐอเมริกา เลือก แพทริค รีด ดาวรุ่งหนุ่มชาวอเมริกัน ติดทีมครั้งนี้ ก่อนไปเผชิญหน้ากับ รอรีย์ แม็คอิลรอย ความหวังสูงสุดของฝั่งยุโรป ซึ่งประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เมเจอร์และรายการอื่นมาแล้วมากมาย กระนั้นเอง ดีกรีเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ รีด ขวัญหนีดีฝ่อเพราะการดวลวันสุดท้ายแบบซิงเกิล แมตช์ เพลย์ ที่ เฮเซลไทน์ เนชันแนล กอล์ฟ คลับ โปรหนุ่มจากเท็กซัส โชว์ฟอร์มแบบไม่ทำให้กัปตันทีมผิดหวังเอาชนะ แม็คอิลรอย เฉือนกัน 1 อัพ และกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยให้ สหรัฐฯ คว้าชัย 17-11 แต้ม ครองโทรฟีแห่งศักดิ์ศรีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หายไปนานเมื่อปี 2008
คริสตี โอคอนเนอร์ จูเนียร์ VS. เฟรด คัพเพิลส์ (1989)
เกมวันสุดท้ายที่ เดอะ เบลฟราย อังกฤษ การดวลที่หลุม 18 คริสตี โอคอนเนอร์ จูเนียร์ จอมเก๋าของฝั่งยุโรป เลือกใช้เหล็ก 2 ตีลูกขึ้นกรีนได้อย่างน่าประทับใจ ก่อนพัตต์เบอร์ดี 4 ฟุตลงหลุมสวยงาม ขณะที่ คัพเพิลส์ เผชิญกับความกดดันหนักเพราะต้องตีเสมอเพื่อช่วยทีมแบ่งคะแนนกลับไปให้ได้ จิตใจไม่นิ่งพอ พัตต์ลูกหลุดเป้าหมาย ส่งให้ โอคอนเนอร์ จูเนียร์ ได้ 1 แต้มกลับไป ก่อนช่วยให้ทีมยุโรป ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้งที่ 14-14 แต้ม
ฮัล เออร์วิน VS. เบอร์นาร์ด แลงเกอร์ (1991)
ไรเดอร์ คัพ หนนี้ สหรัฐอเมริกา ตั้งเป้าเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องนำโทรฟีกลับมาให้กองเชียร์ได้ชื่นใจหลังผิดหวังมา 3 ครั้งซ้อนก่อนหน้า ทว่าความกดดันกลับตกไปอยู่ที่ฝั่งยุโรปแทนเมื่อ เบอร์นาร์ด แลงเกอร์ ต้องเจอกับ ฮัล เออร์วิน ภายใต้เงื่อนไขหลุม 18 ว่าต้องเก็บพาร์จากการพัตต์ระยะ 6 ฟุตให้ได้เพื่อคว้าชัยชนะช่วย ยุโรป รักษาแชมป์ไว้ต่อไป แต่กลายเป็นว่าเขากลับพัตต์ลูกระยะสั้นเฉี่ยวหลุมไปนิดเดียว ส่วนรายของ เออร์วิน ที่ตีพลาดในช่วงเริ่มก็มาปิดบัญชีแบ่งคะแนนไป และเป็นผลให้ สหรัฐฯ ชนะแบบเฉือนๆ 14 ½ - 13 ½ ได้แชมป์อย่างที่ตั้งใจ
พอล เอซิงเกอร์ VS. นิล ฟัลโด้ (1993)
พอล เอซิงเกอร์ กับ นิค ฟัลโด้ ถือเป็นสองผู้เล่นที่เชือดเฉือนกันมาตลอดในการแข่งขันอาชีพ และพวกเขาก็มาเจอกันอีกครั้งในศีก ไรเดอร์ คัพ ที่ เดอะ เบลฟราย อังกฤษ ฟัลโด้ โชว์ฟอร์มได้ดีรวมถึงการทำ โฮล อิน วัน ที่หลุม 14 และนำมาตลอด 1 อัพจนถึงหลุมสุดท้าย ทว่าในช่วงระยะตัดสิน โปรชาวเมืองผู้ดี กลับพัตต์ลูกระยะสั้นเฉี่ยวหลุมไป และถึงแม้ว่าการดวลคู่นี้จะไม่มีผลอะไรเพราะแชมป์ตกเป็นของ สหรัฐฯ แน่นอนแล้วแต่ เอซิงเกอร์ ก็ตั้งใจพัตต์เต็มที่ส่งให้แมตช์จบลงที่ผลเสมอแบ่งคะแนน จับมือกลายเป็นเพื่อนกันหลังจากนั้น ส่วนผลการแข่งขัน สหรัฐฯ ชนะไป 15-13 แต้ม คว้าแชมป์นอกบ้าน
ฟุซซี โซลเยอร์ VS. เซบี บาเยสเตรอส (1983)
การดวลกันระหว่าง ฟุซซี โซลเยอร์ จาก สหรัฐอเมริกา กับ เซบี บาเยสเตรอส จากยุโรป ก่อให้เกิดช็อตสุดประทับใจเมื่อ บาเยสเตรอส โชว์เวทมนต์มหัศจรรย์หยิบเหล็ก 3 มาหวดลูกที่ตกในบังเกอร์ ลอยละลิ่ว 245 หลา ลงหลุมชนิดที่ แจ๊ค นิคคลอส สุดยอดผู้เล่นชาวอเมริกันยกย่องว่าเป็น “ช็อตที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา” โดยผลการดวลของคู่นี้จบลงที่เสมอกัน และ สหรัฐฯ ก็เป็นแชมป์ด้วยผล 14 ½ - 13 ½ แต้ม แต่กระนั้นช็อตการตีของตำนานสวิงแห่งแดนกระทิงดุ ก็ถูกพูดถึงแบบข้ามกาลเวลาจนถึงปัจจุบัน
นิค ฟัลโด้ VS. เคอร์ติส สเตรนจ์ (1995)
อีกหนึ่งแมตช์ลุ้นแชมป์สุดระทึกขวัญสำหรับการเจอกันของ นิค ฟัลโด้ กับ เคอร์ติส สเตรนจ์ ที่ โอค ฮิลล์ คันทรี คลับ แมตช์นี้ สเตรนจ์ ตั้งใจเต็มที่ในการคว้าชัยให้เจ้าถิ่น ทว่ากลับหลุดเสียโบกีช่วง 3 หลุมสุดท้าย และเป็น ฟัลโด้ ที่ช่วงชิงโอกาสเมื่ออีกฝ่ายผิดพลาด เก็บแต้มจนเป็นผู้ชนะไป 1 อัพ ก่อนที่พลพรรคจอมสวิงของยุโรป จะได้ฉลองแชมป์ในถิ่นคู่แข่งด้วยผลงาน 14 ½ - 13 ½ แต้ม ชนิดทำเอา สเตรนจ์ ที่ลงแข่ง ไรเดอร์ คัพ เป็นครั้งที่ 5 ถึงกับเจอฝันร้ายเพราะหากเขาไม่พลาด ถ้วยแชมป์คงอยู่ในมือชาวอเมริกันไปแล้ว
ฟิล มิคเคลสัน VS. เซร์คิโอ การ์เซีย (2016)
การลุ้นแชมป์สุดเข้มข้นที่ เฮเซลไทน์ เมื่อ ฟิล มิคเคลสัน กับ เซร์คิโอ การ์เซีย ลงสนามเป็นคู่ที่ 5 ขณะที่ 4 คู่ก่อนหน้าทั้งฝั่งยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ต่างคว้าชัยชนะไปได้ฝั่งละ 2 แมตช์ ซึ่งหลุมสุดท้าย “เลฟตี” โชว์ความแม่นพัตต์ระยะ 15 ฟุต เป็นเบอร์ดีอย่างสวยงามและกระโดดโลดเต้นดีใจไปแล้ว ทว่า การ์เซีย ไม่ยอมให้จบง่ายๆด้วยการโชว์พัตต์ลูก 12 ฟุต กลิ้งลงหลุมไปแบบแม่นยำเช่นกัน ก่อนจบลงที่ผลเสมอในแมตช์นี้ ซึ่งคนดูต่างยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งแมตช์สุดมันประจำทัวร์นาเมนต์ แม้ผลจบลงที่ สหรัฐอเมริกา ชนะขาดลอย 17-11 แต้มก็ตาม
