ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ต้านความแข็งแกร่งของ สโลวาเกีย ไม่ไหว ถึงแม้สู้อย่างเต็มที่ แต่ทำประตูไล่ไม่ทัน พ่ายไป 2-3 ชวดป้องกันแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ส่ง "สโลวัก" ซิวแชมป์สมัยที่ 2 ไปครอง
ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน คู่ที่สองเป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติสโลวะเกีย
เกมนี้กุนซือมิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทยจัดทัพ 11 ตัวจริงชุดเดิมจากในเกมแรกที่เอาชนะจุดโทษกาบอง 4-2 นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ส่วน สโลวะเกียของกุนซือแยน โคซัค มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่่นจากเกมแรกที่เอาชนะยูเออี ถึง 8 คน แต่ตัวหลักอย่าง มาร์ติน สเกอร์เทล, อ็อนเดรจ์ ดูด้า ยังเป็นตัวจริงเช่นเดิม
เริ่มเกมครึ่งเวลาแรก สโลวะเกีย เป็นฝ่ายที่ครองเกมได้เหนือกว่า น.3 อดัม เนเม็ช หัวหอกสโลวะเกีย ได้โอกาสโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป
น.10 สโลวะเกียที่ครองเกมได้เหนือกว่า มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ โรเบิร์ต มัค ใช้ความเร็วกระชากบอลหนี ฟิลิป โรลเลอร์ ก่อนตบเข้ากลางมาให้ อ็อนเดรจ์ ดูด้า ชาร์ตเข้าไปง่ายๆ
หลังเสียประตู ทีมชาติไทย พยายามเปิดเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน ได้โอกาสหลุดมาในกรอบเขตโทษของสโลวะเกียหลายครั้งแต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์เท่าที่ควร
น.30 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษสโลวะเกีย ก่อนจะยิงเต็มข้อแต่บอลข้านคานออกไป พลาดตีเสมออย่างน่าเสียดาย
น.34 ทีมชาติไทยที่ครองเกมอยู่พักใหญ่แต่จบสกอร์ไม่ได้ กลับกลายเป็นสโลวะเกีย ที่มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ โรเบิร์ต มัค
แต่ทีมชาติไทยไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 41 จากการประสานงานที่ยอดเยี่ยมและเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่หลุดมาในกรอบเขตโทษและจ่ายนิ่มๆให้ จักรพันธ์ แก้วพรม วิ่งมายิงโล่งๆเข้าไป
หลังตีไข่แตก ทีมชาติไทยยิ่งได้ใจ น.43 มงคล ทศไกร เลี้ยงจี้แนวรับสโลวะเกียมาในกรอบเขตโทษก่อนยิงเต็มข้อบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งเวลาแรก 3 นาที ทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบ 45 นาทีแรก ไทย ตามหลังสโลวะเกีย 1-2
ครึ่งเวลาหลังทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวคนแรก นำ บดินทร์ ผาลา ลงเล่นแทน มงคล ทศไกร โดยช้างศึกเล่นกันได้อย่างคึกคัก น.51 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ไปติดเซฟของนายประตูสโลวะเกีย พลาดตีเสมออย่างน่าเสียดาย
น.54 ไทย เกือบตามตีเสมอได้อีกครั้งจากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน หลุดมาในกรอบเขตโทษและยิงไปแฉลบ มาร์ติน สเกอร์เทล ก่อนบอลไปเข้ามือผู้รักษาประตูสโลวะเกีย
น.60 สโลวะเกีย เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก นำ สตานิสลาฟ โลบ็อตกา ลงมาเล่นแทน อีริค ซาโบ และถัดมา 2 นาที สโลวะเกีย เกือบขยับสกอร์หนีห่าง จากจังหวะที่ โรเบิร์ต มัค ได้หลุดไปยิงผ่านมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
น.63 ทีมชาติไทย เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สอง นำ นูรูล ศรียานเก็ม ลงมาเล่นแทน จักรพันธ์ แก้วพรม
แม้ไทยจะครองเกมได้ดีกว่า แต่นาทีที่ 67 สโลวะเกีย มาได้ประตูหนีห่าง 3-1 จากจังหวะประสานที่ยอดเยี่ยม ระหว่าง อีริค ปาซินดา กับ อ็อนเดรจ์ ดูด้า และเป็น ปาซินดา ที่ยิงด้วยซ้ายบอลเสียบเสาอย่างสวยงาม
น.70 ทีมชาติไทยได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก 2 จังหวะในกรอบเขตโทษ จากการที่ มิเชล ซุลล่า จงใจเล่นช้าเพื่อถ่วงเวลา และเป็น ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงไปติดกำแพงของสโลวะเกีย และในนาทีที่ 75 ไทย เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย นำ สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาแทน พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา
น.78 แฟนๆในสนามส่งเสียงเฮลั่นสนามอีกครั้งจากจังหวะลูกฟรีคิก นูรูล ศรียานเก็ม เปิดบอลไปให้ พรรษา เหมวิบูลย์ เข้าประตูไป ให้ไทยไล่มาเป็น 2-3
ช่วงเวลาที่เหลือทีมชาติไทยเดินหน้าบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีพอ หมดเวลา 90 นาที สโลวาเกีย ชนะ ทีมชาติไทย 3-2 คว้าแชมป์คิงส์คัพได้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 2004
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, ฟิลิป โรลเลอร์, จักรพันธ์ แก้วพรม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์, มงคล ทศไกร, ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติสโลวะเกีย
มิเคล ซุลล่า (GK), มาร์ติน นอร์เทล, บอริส เซคูลิค, โรเบิร์ต มาซาน, ลูโบเมียร์ ซัตค่า, แยน เกรกุส, อ็อนเดรจ์ ดูด้า, อีริค ซาโบ, อีริค ปาซินด้า, อดัม เนมัช, โรเบิร์ต มัค
