xs
xsm
sm
md
lg

“แชมเปี้ยนส์ ลีก” รีเทิร์น จับตาไฮไลต์เด็ดรอบ 16 ทีม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบนี้แพ้ต้องมาใหม่ปีหน้า
เอเยนซี - ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-18 ได้ฤกษ์กลับมาโม่แข้งอีกครั้งรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ซึ่งก็เข้มข้นกับคู่อภิมหาบิ๊กแมตช์ไม่ว่าจะเป็น รีล มาดริด ปะทะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมถึง เชลซี เจอของแข็งอย่าง บาร์เซโลน่า ดังนั้นเราได้คัดเลือกไฮไลต์มาฝากกันดังนี้

บาเซิล - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ลิโอเนล เมสซี กองหน้าระดับซุปตาร์ของ บาร์เซโลน่า เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหวั่น แมนฯซิตี้ ทั้งแนวทางการเล่นรวมถึงมีกุนซือระดับเอกอุอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เคยเป็นแชมป์ถ้วยใบนี้มาแล้ว 2 หนตอนกุมบังเหียน บาร์ซ่า อีกทั้ง "เรือใบสีฟ้า" สามารถทุ่มสมาธิมาที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก เนื่องจากใน พรีเมียร์ ลีก นำโด่งเป็นจ่าฝูงทิ้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 16 แต้ม ขณะที่แนวรุกนำโดย เควิน เดอ บรอยน์ จอมแอสซิสต์เลือดเบลเยียม ที่นายใหญ่ชาวสเปนบอกว่าการคว้าแชมป์ใหญ่ในปีนี้จะส่งให้ก้าวไปมีลุ้นรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีหรือ "บัลลงดอร์"

เซบีย่า - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : สถานการณ์ใน พรีเมียร์ ลีก โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ "ผีแดง" ถอดใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยน่าจะมาเน้นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กุนซือชาวโปรตุกีสเคยเป็นแชมป์มาแล้ว 2 หนสมัยคุม ปอร์โต้ กับ อินเตอร์ มิลาน ที่สำคัญแท็กติกของ แมนฯยู ที่ถูกวิจารณ์ในลีกว่าเล่นน่าเบื่อก็เข้าทางการเตะฟุตบอลแบบเหย้า-เยือน นอกจากนี้แชมป์ยุโรป 3 สมัยจากอังกฤษยังได้ อเล็กซิส ซานเชซ ปีกทีมชาติชิลีมาจาก อาร์เซนอล ซึ่งก็จะเติมความหลากหลายได้ไม่มากก็น้อย แม้ว่าตอนนี้ยังปรับตัวไม่ได้มากก็ตาม

รีล มาดริด - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : คู่บิ๊กแมตช์ของรอบนี้ "ราชันชุดขาว" แชมป์เก่า 2 สมัยปี 2016 กับ 2017 และแชมป์สูงสุด 12 สมัย ต้องเจอกับ เปแอสเช ที่ติดเขี้ยวเล็บอย่าง เนย์มาร์ กองหน้าแซมบ้าแข้งค่าตัวแพงที่สุดในโลก 198 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,500 ล้านบาท) ที่สอยมาจาก บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เนย์มาร์ ต้องแบกความกดดันอย่างสูง เพราะเป้าหมายของ เปแอสเช คือไปให้ถึงแชมป์ยุโรปสมัยแรก โดยที่ผ่านมาไม่เคยเข้าชิงมาก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งอดีตแข้ง ซานโต๊ส ก็ฟอร์มเยี่ยมกดไปแล้ว 28 ประตูจาก 27 นัดรวมทุกรายการ กระนั้นก็ตามมาตรฐานการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเจอกับ รีล มาดริด ที่มีข่าวอยากได้ตัวกองหน้าแซมบ้าไปเสริมทัพในอนาคตด้วย

ปีที่แล้วถ้ายังจำกันได้ เปแอสเช เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายพบ บาร์เซโลน่า นัดแรกยำใหญ่ 4-0 แต่บุกไปแพ้ 1-6 ตกรอบไปอย่างเจ็บช้ำ ดังนั้นก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ เนย์มาร์ รวมถึงพลพรรคห้ามผิดพลาดอีก กระนั้นก็ตามแมตช์แบบนี้คงตัดสินด้วยกองหนุน ซึ่ง รีล มาดริด ก็มีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซมา และ แกเร็ธ เบล ขณะที่ยอดทีมของฝรั่งเศสมี เอดินสัน คาวานี่, อังเคล ดิ มาเรีย และ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ถูกแล้วเป็นเกมระดับ 5 ดาวคุณภาพคับแก้วที่พลาดไม่ได้

เชลซี - บาร์เซโลน่า : แม้ว่า บาร์ซ่า จะเสีย เนย์มาร์ แต่ยังถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ถ้วยใบนี้ เพราะการที่มี เมสซี่ ที่พร้อมร่ายเวทมนตร์ศาสตร์ลูกหนัง พร้อมตัวสนับสนุนอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ อีกทั้งยังมี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์แซมบ้าที่สอยมาจาก ลิเวอร์พูล ช่วงปีใหม่ด้วยค่าตัว 146 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,278 ล้านบาท) ประสานด้วย อุสมาน เดมเบเล่ ปีกฝรั่งเศส ที่กลับมาฟิตแล้ว อีกทั้งใน ลา ลีกา สเปน ก็คลายกังวล เพราะนำเป็นจ่าฝูงทิ้ง แอตเลติโก มาดริด 7 แต้ม รวมถึงทิ้งคู่ปรับอย่าง รีล มาดริด ถึง 17 แต้ม

ด้าน เชลซี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ผลงานใน พรีเมียร์ ลีก ไม่สู้ดี แต่ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก จะประมาทไม่ได้ เพราะอดีตที่ผ่านมาเคยเขี่ย บาร์เซโลน่า ตกรอบน็อกเอาท์มาแล้ว ล่าสุดคือฤดูกาล 2011-12 ที่ชนะไปด้วยประตูรวม 3-2 ในรอบรองชนะเลิศก่อนกรุยทางเข้าไปชิงแล้วชนะจุดโทษ บาเยิร์น มิวนิค 4-3 โดย 120 นาทีเสมอ 1-1 ได้แชมป์แรกในประวัติศาสตร์ทีม

ปอร์โต้ - ลิเวอร์พูล : ปิดท้ายที่ "หงส์แดง" ที่กลับมาครั้งนี้น่าจับตามองไม่น้อยภายใต้การคุมทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มีประสบการณ์เตะถ้วยนี้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาแล้ว ซึ่ง ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัยยังเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงสำหรับทุกทีม ยิ่งปีนี้เกมรุกเข้าที่เข้าทางแม้ว่าจะเสีย คูตี้ แต่ว่าก็ได้ฟอร์มฮอตของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กดไปแล้ว 29 ประตูจาก 35 นัดรวมทุกรายการ ประสานกับ โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนเกมรับก็แน่นขึ้นจากการได้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก เมื่อช่วงตลาดเปิดมกราคมที่ผ่านมา
โฉมหน้า 16 ทีมสุดท้าย
เนย์มาร์ ต้องแบก เปแอสเช
เป๊ป กับ แมนฯซิตี้ ที่ใครก็หวั่น
ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย


กำลังโหลดความคิดเห็น