วิลล์ เฟเออร์ คอลัมนิสต์ชาวอเมริกันของนิตยสาร South East Asia Globe วิเคราะห์ถึงความสำเร็จของฟุตบอลไทยลีก ถึงสาเหตุที่มีผู้ชมสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งจากการถ่ายทอดสด และในสนาม
โดย วิลล์ เฟเออร์ คอลัมนิสต์ชาวสหรัฐฯ เขียนผ่าน South East Asia Globe กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของฟุตบอลไทย จากการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขึ้น และได้เริ่มมีฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ประเภท ก, ข, ค และ ง จนกระทั่งเริ่มก่อตั้งเป็นลีก
หลังจากนั้นเกิดการพัฒนาจนนำสโมสรต่างๆ ออกสู่ภูมิภาค จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดึงแฟนๆ กลับมาสนใจฟุตบอลในประเทศ และได้รับความนิยมในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ เบนจามิน ตัน รองประธานบริษัท ไทยลีก เปิดเผยด้วยว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และไทยลีก พยายามดูตามโมเดลจากลีกยุโรป รวมทั้ง เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยการใช้แฟนบอลเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับนำรายได้จากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจาก ทรูวิชั่นส์ ที่ถือสิทธิ์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2011 และมีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จนมีสัญญาถึง 2020 ซึ่งมีมูลค่าที่ 4,200 ล้านบาท และ มากกว่า2 เท่าของดีลในครั้งก่อนหน้า โดยระบุว่าไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 เป็นลีกที่มีการถ่ายทอดสดทุกนัด ดังนั้นแฟนบอลที่รอคอยการถ่ายทอดสด จะมีฟุตบอลให้ชมถึง 18 นัด ในช่วงสุดสัปดาห์
ซึ่งกรณีดังกล่าว เฟเออร์ ระบุว่า ไทยลีก มีความแตกต่างจากาลีกอื่นในภูมิภาคอาเซียน ที่หลายลีกต้องจ่ายเงินให้กับสถานีโทรทัศน์ เพื่อถ่ายทอดสดสร้างกระแสให้แฟนบอลสนใจ
ด้าน "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรดภัทรพงศ์ อดีตกองกลางทีมชาติไทย และปัจจุบันเป็นผู้บริหารทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี เผยถึงกลยุทธ์ของไทยลีกว่า แต่ละสโมสรมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้แฟนบอล และถือเป็นการเรียกแฟนสู่สนามฟุตบอล หากว่าไม่มีกิจกรรมต่างๆ ก็อาจไม่มีแฟนบอลออกมา
นอกจากนี้คอลัมนิสต์ชาวอเมริกัน ยังระบุด้วยว่าซูเปอร์สตาร์ของไทยลีกนั้นมีส่วนต่อแฟนบอลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถสัมผัสได้ใกล้ชิดกว่าสตาร์ในลีกยุโรป ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นการยึดแฟนบอลเป็นศูนย์กลาง ซึ่งถือว่ามีส่วนต่อความสำเร็จของไทยลีกในปัจจุบัน