EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
วันนี้เราอยู่ในยุคที่ฟุตบอล อังกฤษ อดีตแช้มพ์โลก 1966 อยู่ต่ำชั้นกว่า เปรู เวลส์ เหนือกว่า อิตาลี แช้มพ์โลก 4 สมัย ไอ๊ส์แลนด์ ที่เคยเป็นทีมแจกแต้มแจกสกอร์ ยังดีกว่า อายร์แลนด์เหนือ ซ้อคเค่อร์ของ อเมริกา ชาติที่เด่นในกีฬาที่เล่นด้วยมือมากกว่าเท้า ยังแซงหน้า สก๊อทแลนด์ 1 ใน 4 ชาติสมาชิกตลอดกาลของ คณะกรรมการฟุตบอลนานาชาติ (International Football Association Board – IFAB) ที่มีอำนาจวางกฎเกณฑ์ของกีฬาชนิดนี้มาตั้งแต่ปี 1886 และ ปอรตูเกา บัดนี้ก็นำหน้า อารเกนตีน่า แช้มพ์โลก 2 สมัยที่ต้องกระเสือกกระสนในรอบคัดเลือกจนถึงนัดสุดท้ายกว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหนนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เพิ่งประกาศอันดับโลก (FIFA World Rankings) ออกมา ซึ่งมีผลต่อการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย โดยพิธีการจับสลากจะมีขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ที่ พระราชวังเครมลิน ใน กรุงม้อสโคว และแม้ว่าการจัดอันดับฟีฟ่าจะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ก็ตาม แต่เขาจะถือเอาอันดับโลกของเดือนตุลาคมเป็นเกณฑ์
รัสเซีย 2018 แบ่งเป็น 8 กลุ่มแข่งขันกันเองในกลุ่ม (round-robin) ก่อน แล้วนำ 2 อันดับแรกรวม 16 ทีมเข้าสู่รอบต่อไป ซึ่งจะเป็นการแข่งขันแบบน้อคเอ๊าท์ (knockout) ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศเช่นเดียวกับหนก่อนๆ โดยขั้นตอนแรกต้องจัดทีมต่างๆลงในโถ 1-4 โถละ 8 ทีมก่อน แล้วจึงเริ่มกระบวนการการจับสลาก
ที่ผ่านมา การแบ่งทีมลงในโถต่างๆนั้น เขาจะนำทีมอันดับดีที่สุดตาม ฟีฟ่า แร้งกิ้งส์ ไปไว้ในโถที่ 1 เท่านั้น ส่วนอีก 3 โถเขาจะเน้นเรื่องทวีปที่ตั้งของทีมนั้นๆมากกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้ทีมจากทวีปเดียวกันต้องมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันในรอบแรก ยกเว้น ทีมจากทวีปยุโรปที่เขายอมให้มี 2 ทีมได้ในกลุ่มเดียวกัน แต่สำหรับ รัสเซีย 2018 นี้ เขาจะวางทีมทั้งหมดลงในโถโดยเรียงตามอันดับฟีฟ่าเลย โดยวาง รัสเซีย ชาติเจ้าภาพ เป็นทีมแรกก่อนทีมวางอันดับ ฟีฟ่า แร้งกิ้งส์
นับจนถึงวันนี้การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกจากโซนทวีปต่างๆกำลังเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว เราได้ทีมที่เข้ารอบสุดท้าย 23 ทีม ยังคงรออีก 9 ทีม นั่นคือ 2 ทีมจาก รอบเพลย์-อ๊อฟระหว่างโซนทวีป (inter-confederation play-offs) คือ อ๊อสตราเลีย จากโซนเอเชีย พบกับ ออนดูรัส จากโซนอเมริกาเหนือ กลาง และแคริบเบี้ยน ซึ่งจะแข่งขันกันในระบบน้อคเอ๊าท์ เหย้า-เยือน ในวันที่ 10 และ 15 พฤศจิกายนนี้ และ นิวซีแลนด์ จากโซนโอเชินเนีย พบกับ เปรู จากโซนอเมริกาใต้ ในวันที่ 11 และ 15 พฤศจิกายนนี้
โซนอัฟริกา ยังรอชี้ขาดอีก 3 ทีมที่จะมีการแข่งขันรอบคัดเลือก รอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ส่วนที่เหลืออีก 4 ทีมก็จะมาจากรอบเพลย์อ๊อฟ เหย้า-เยือน ของบรรดาที่อันดับ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม โซนยุโรป ที่จะรู้ผลนัดสุดท้ายในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน
สำหรับทีมวางในโถที่ 1 จำนวน 8 ทีมนั้นก็คือ รัสเซีย เจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งยังถูกกำหนดให้อยู่ในกลุ่ม A ด้วย นี่นับเป็นหนที่ 11 แล้วที่ รัสเซีย ได้เข้ารอบสุดท้าย ผลงานดีที่สุดคือได้อันดับ 4 ในปี 1966 ยุคที่มี เลี้ยฟ ยาชิน (Lev Yashin) แมงมุมดำ สุดยอดตำนานผู้รักษาประตูของโลก ทีมต่อมาเรียงตาม ฟีฟ่า เวิร์ลด์ แร้งกิ้งส์ ล่าสุด คือ เจอรมานี เป็นทีมที่รั้งอันดับ 1 เข้าร่วมรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 19 และครองถ้วยแช้มพ์มาแล้ว 4 สมัย ในขณะที่ บราซิว อันดับ 2 น่าจะเด็ดกว่า เพราะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทุกครั้ง นี่จึงเป็นครั้งที่ 21 แล้ว และครองแช้มพ์ไป 5 หน มากกว่าใคร
ปอรตูเกา แช้มพ์ ยูโร 2016 เข้าร่วมเป็นครั้งที่ 7 และผลงานที่ฮือฮาที่สุดก็คือครองอันดับ 3 ในปี 1966 ยุคที่มี ยูเซบิโอ (Eusebio) เสือดำแห่งโมซัมบิก อารเกนตีนา เข้าร่วมรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 17 และเคยครองแช้มพ์ 2 สมัย เบลเจี้ยม เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนที่ 13 ดีที่สุดคือได้อันดับ 4 ในปี 1986 โปแลนด์ เล่นรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 8 เคยรั้งอันดับ 3 ในปี 1974 และ 1982
ส่วนทีมสุดท้ายในโถที่ 1 คือ ฝรั่งเศส แช้มพ์โลกปี 1998 ได้อันดับ 7 ใน ฟีฟ่า เวิร์ลด์ แร้งกิ้งส์ ด้วยคะแนน 1,226 เฉือน สเปน ที่มีคะแนน 1,218 เพียงนิดเดียว และนี่เป็นการเข้ารอบสุดท้ายหนที่ 15 ของ ฝรั่งเศส ครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *