ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ พอใจผลงาน “ช้างศึกโต๊ะเล็ก” ป้องแชมป์ซีเกมส์ แม้ร่วง 8 ทีมอินดอร์ฯ แต่ยังเชื่อมั่น พร้อมให้เวลา “ปูลปิส” พัฒนาทีมได้ไกลแน่ พร้อมส่งเด็กลุยศึกอาเซียน ยอมรับ “กัปตันช้าง” ติดโทษแบนส่งผลเสียฟุตซอลไทยในชิงแชมป์เอเชียปีหน้า
“บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ เผยว่า สำหรับผลงานของทีมฟุตซอลชายในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แม้จะพลาดแพ้อินโดนีเซีย หนึ่งนัดแต่สุดท้ายก็ทำเป้าหมายสำเร็จคือป้องกันแชมป์ไว้ได้ ซึ่งต้องชมทางอินโดฯ ที่พัฒนาศักยภาพได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากหลังจากโดนแบนไป
ขณะที่ในเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เติร์กเมนิสถาน ถือเป็นครั้งแรกที่เราตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยแพ้อิหร่าน 4-10 แม้อาจจะพูดได้ว่าเราแพ้ทีมแข็งแกร่งที่สุดของเอเชีย แต่ตนยอมรับว่าทีมเรายังไม่เข้ารูปเข้ารอย การที่นักเตะจะปรับให้เข้ากับระบบของ “ปูลปิส” โฮเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส กุนซือทีมชาติไทยคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่า เร็วๆ นี้ เราจะเห็นพัฒนาการและรูปแบบของทีมที่ดีขึ้น
“บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เผยถึงการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2017 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2560 ด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2007 สมัยตนเป็นประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติหนก่อน มักส่งนักฟุตซอลชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ไปแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน เนื่องจากต้องการพัฒนาดาวรุ่ง สร้างเลือดใหม่ขึ้น แต่หลังจากที่หมดวาระ ทีมชาติไทยก็ใช้ชุดใหญ่มาตลอด
“ครั้งนี้เมื่อตนกลับมารับหน้าที่อีกครั้ง ก็ตั้งใจจะสานนโยบายเดิม ซึ่งเมื่อครั้งฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 ก็เริ่มใช้ชุดใหญ่ผสมกับดาวรุ่ง เพื่อให้ประคองรุ่นน้องก่อน และปี 2017 นี้ เราจะใช้ดาวรุ่งทั้งหมด นักเตะทุกคนจะอายุไม่เกิน 25 ปี ซึ่งแกนหลักส่วนใหญ่จะเป็นชุดทำศึกชิงแชมป์เอเชีย อายุไม่เกิน 20 ปี จะมีเพียงตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่อาจส่งผู้เล่นชุดใหญ่ไปทำหน้าที่ รวมถึงในรายของ กฤษดา วงษ์แก้ว จอมทัพกัปตันทีม ที่ติดโทษแบน 2 นัด จากการโดนใบแดงในศึกเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์”
“แน่นอนว่า มันส่งผลต่อศึกใหญ่อย่างชิงแชมป์เอเชีย ที่ไต้หวัน วันที่ 6 - 18 กุมภาพันธ์ 2018 จึงอาจจะหนีบกฤษดาไปด้วย เพื่อล้างโทษแบนครั้งนี้ ซึ่งเรากำลังศึกษากฎกติกาอยู่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ โดยจะมีการประกาศ 14 ผู้เล่นชุดนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2560”