xs
xsm
sm
md
lg

“เปแอสเช” ขอท้าชิง “ชุดขาว” ลุ้นแชมป์ 3 ปีติด ไฮไลต์เด่นศึก UCL

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รีล มาดริด ลุ้นแชมป์ 3 สมัยติด
เอเยนซี - ศึกฟุตบอลสโมสรยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-18 ได้ฤกษ์โม่แข้งระหว่างวันที่ 12 กับ 13 กันยายนนี้ เราจึงได้รวบรวมไฮไลต์ที่น่าสนใจมาฝากกัน นำโดย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ทุ่มหมดหน้าตักเดิมพันแชมป์สมัยแรกกับ รีล มาดริด ที่หมายแชมป์ 3 ปีติดต่อกัน ส่วนที่เหลือจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

แชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน - รีล มาดริด กลายเป็นสโมสรแรกที่ป้องกันแชมป์ยุโรปภายใต้ชื่อ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนัดชิงปีที่แล้วถล่ม ยูเวนตุส 4-1 เรียกได้ว่าต้องรอกันนาน 1 ใน 4 ศตวรรษเลยทีเดียวกว่าจะมีทีมที่ทำได้สำเร็จ ดังนั้น "ราชันชุดขาว" ก็มีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ซึ่งหากทำได้ก็จะตามรอย บาเยิร์น มิวนิค ที่ทำเอาไว้ระหว่างปี 1973-1976 สมัยที่ยังใช้ชื่อว่า ยูโรเปี้ยน คัพ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซีเนอดีน ซีดาน นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส จะไม่ได้เสริมทัพระดับบิ๊กเนม แต่ว่าคีย์แมนอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังอยู่ รวมถึงมีดาวรุ่งสเปนอย่าง มาร์โก อาเซนซิโอ ที่ฟอร์มดีวันดีคืน ขณะที่ประสบการณ์ของผู้เล่นภายในทีมก็เหลือล้น โดยเฉพาะแนวรับที่มี เซร์คิโอ รามอส กับ มาร์เซโล

เปแอสเชดีพอหรือยัง - ซึ่งหากจะส่องกล้องหาผู้ท้าชิงของ รีล มาดริด แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมอยู่ด้วย หลังจากซัมเมอร์ที่ผ่านมาทุ่มสถิติโลกใหม่ 198 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,910 ล้านบาท) คว้า เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลมาจาก บาร์เซโลน่า นอกจากนี้ยังยืม คีเลียน เอ็มบัปเป้ หอกฝรั่งเศส มาจาก โมนาโก ก่อนจะซื้อขาดด้วยค่าตัวมหาศาล 166 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,470 ล้านบาท) เห็นได้ชัดว่า เปแอสเช พร้อมทำทุกอย่าง แม้ว่าจะเสี่ยงผิดกฎควบคุมการเงิน "ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์" ของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟา เพื่อก้าวไปสู่แชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์ โดยบททดสอบแรกของปีนี้ก็คือ บาเยิร์น มิวนิค เพื่อนร่วมกลุ่ม บี

การกลับมาของทีมอังกฤษ - ย้อนไปราว 10 ปีก่อนเรียกได้ว่าสโมสรจากเมืองผู้ดีครองความยิ่งใหญ่บนเวทียุโรปพิสูจน์จากการที่มีทีมผ่านเข้ารอบชิง 5 ปีติดต่อกันและเป็น ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ช่วยกันสร้างชื่อคว้าแชมป์มาครอง ก่อนที่ 5 ปีหลังสุดจะไม่มีทีมจาก พรีเมียร์ ลีก เข้าชิงเลย

แน่นอนว่าปีนี้ทีม พรีเมียร์ ลีก กลับมาอีกครั้งพร้อมตัวแทนถึง 5 ทีมประกอบไปด้วย เชลซี, ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งแต่ละสโมสรนั้นก็เสริมทัพกันแบบไม่อั้นรวมถึงทุ่มค่าเหนื่อยดูดนักเตะชื่อดังจากการที่ลีกมีความนิยมมากที่สุดในโลกจนแต่ละทีมนั้นได้ส่วนแบ่งเงินกันแบบอื้อซ่า ดังนั้นปีนี้ก็ต้องมาดูว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็น "ผีแดง" ที่มี โชเซ มูรินโญ คุมทัพ หลังเคยได้ถ้วยใบนี้มาแล้วกับ เอฟซี ปอร์โต้ รวมถึง อินเตอร์ มิลาน ส่วนที่เหลือนั้นก็มีกุนซือฝีมือเยี่ยมทั้งสิ้นคือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ของ "เรือใบสีฟ้า" กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ของ "หงส์แดง"

บ้านใหม่ความท้าทายใหม่ - สเปอร์ส จะเล่นที่ เวมบลีย์ สเดียม ในเกมเหย้าทุกนัดตลอดฤดูกาลนี้ แน่นอนมีบางส่วนไม่ปลื้ม เพราะมองว่า ไวท์ ฮาร์ท เลน แม้ว่าจะเล็ก แต่มีความขลังมากกว่าบรรยากาศสามารถข่มขวัญฝั่งอาคันตุกะได้ดีเยี่ยม ดูแล้ว "ไก่เดือยทอง" งานหนักตั้งแต่เริ่ม เพราะถูกจับสลากอยู่ "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ร่วมกับ รีล มาดริด แชมป์สูงสุด 12 สมัย, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์ปี 1997 และ อาโปเอล จากไซปรัส ซึ่งก็ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ฝีมือของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์

น้องใหม่จากตะวันออก - ปีนี้มีสโมสรน้องใหม่ของเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง การาแบ๊ก ทีมแรกจากอาเซอร์ไบจาน ที่ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก็ต้องเจอของแข็งอย่าง แอตเลติโก มาดริด ที่เข้าชิงมาแล้วปี 2014 กับ 2016, เชลซี แชมป์ปี 2012 และ โรมา อีกหนึ่งทีมก็คือ ไลป์ซิก ที่เพิ่งเลื่อนชั้นคืน บุนเดสลีกา เยอรมนี เมื่อปีที่แล้ว พร้อมทำผลงานได้ดีเกินคาด ซึ่งก็น่ารักน่าลุ้น เพราะอยู่กลุ่มเดียวกับ เบซิกตัส, โมนาโก และ เอฟซี ปอร์โต้ ดังนั้นอาจมีเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้
เนย์มาร์ นำแนวรุก เปแอสเช
ทีมอังกฤษลุ้นทวงความยิ่งใหญ่
สเปอร์ส เตะที่ เวมบลีย์ สเตเดียม
พีพีทีวี ถ่ายทอดสด
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาเตะอีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น