คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ใครๆ ที่กำลังคิดถึงอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) กันอยู่ ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงพรีซีซันกันแล้ว เท่ากับว่าเหลืออีกราวๆ 3 สัปดาห์ ก็จะเปิดฉาก เรกูลาร์ ซีซัน 2017 อย่างเป็นทางการ หลังจากรอคอยกันมายาวนานประมาณ 6-7 เดือน นับตั้งแต่จบ ซูเปอร์ โบว์ล 51
เริ่มต้นอุ่นเครื่องกันมาไม่ทันไร ดูเหมือนว่ากระแสการประท้วงไม่ยืนเคารพเพลงชาติ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ล่าสุดเป็น ไมเคิล เบนเน็ตต์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ จอมเก๋า ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส ที่แสดงออกเกมถล่ม แอลเอ ชาร์เจอร์ส ที่สนาม สตับฮับ เซ็นเตอร์ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอนว่า ก็ย่อมคิดถึงต้นตำรับอย่าง โคลิน เคเปอร์นิก ที่แยกทางกับ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ตั้งแต่เดือนมีนาคม
มองกันเฉพาะแง่มุมของกีฬา ใช่ว่า เคเปอร์นิก จะไม่ดีพอจะได้รับสัญญาฉบับใหม่จากแฟรนไชส์แห่งใดแห่งหนึ่ง อายุอานามก็แค่ 29 ปี สำหรับควอเตอร์แบ็ก ถือว่ายังสามารถใช้งานได้อีกนาน หากเทียบกับ ทอม เบรดี ซึ่งจะบัญชาการทีมบุก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ด้วยวัย 40 ปี ฤดูกาลนี้ แถมมีประสบการณ์เพลย์ออฟ ทะลุถึงรอบชิงแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) และ ซูเปอร์โบว์ล
กลับกลายเป็นว่า เคเปอร์นิก น่าจะตกงานเพราะจุดยืนที่ประกาศไว้ เมื่อซีซันก่อน คือ ต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่อันไม่ชอบธรรม และรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจต่อคนผิวสี ซึ่งการเลือกวิธีประท้วงด้วยการไม่เคารพเพลงชาติ มันก็ย่อมเกิดความแตกแยกทางความคิด บ้างก็สนับสนุน หรือบ้างก็ด่าทอ
อย่างไรก็ตาม ช่วงออฟซีซันที่ผ่านมา เคเปอร์นิก ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับการเหลียวแล มีข่าวพัวพันทั้ง ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส ที่หวังดึงมานั่งสำรอง รัสเซลล์ วิลสัน แต่ก็กลับออกมาแบบไม่ได้เซ็นสัญญา รวมถึง บัลติมอร์ เรฟเวนส์ คู่ปรับรอบชิงชนะเลิศ ปี 2012 ยังหวังจะคว้าไปขัดตาทัพ โจ แฟล็กโก ตัวจริงที่บาดเจ็บหลัง สุดท้ายว่ากันว่า เจ้าของทีม เกิดทุบโต๊ะสั่งล้มดีล ทั้งๆ ที่เหล่าสตาฟฟ์ ต่างอ้าแขนรับ
จริงๆ แล้ว เคเปอร์นิก เองก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย ช่วงที่กำลังหาสังกัดใหม่ ก็ยืนยันว่าจะกลับมายืนเคารพเพลงชาติเหมือนเดิม แถมยังสานสัมพันธ์นำสูทบริจาคแก่ตำรวจเมืองนิวยอร์ก ก็ยังมิอาจล้างภาพนักเคลื่อนไหวจากสายตาเจ้าของทีมไปได้
ก่อนหน้า จอห์น มารา เจ้าของ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ออกมาเผยว่า หากดึง เคเปอร์นิก เข้าสู่ทีม จะสร้างความเกลียดชังแก่แฟนๆ ถึงขั้นยกเลิกจองตั๋วปี ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุน ก็เคลื่อนไหว ชูป้ายประท้วงหน้าสนาม เรฟเวนส์ หรือคุกเข่าเลียนแบบ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเนวาดา
แม้ มารา จะออกมาให้กำลังใจ เคเปอร์นิก เชื่อว่าจะได้โอกาสเซ็นสัญญาอย่างแน่นอน แต่ความจริงก็คงไม่เกิดขึ้นแน่ หากไม่มีทีมใดสูญเสียควอเตอร์แบ็กแบบกะทันหัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ดีกรีรุกกีทีมบุกยอดเยี่ยม ก็ยังเป็นคู่แข่งอยู่เช่นกัน
เหตุบ้านการเมืองของสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้ ก็เพิ่งจะเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาตินิยมผิวขาว กับกลุ่มผู้คัดค้านการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 19 ราย หากว่ากันตามความจริง คนอาศัยอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน ก็ไม่เห็นจะต้องมาเข่นฆ่ากันเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งนั่นก็คือ แรงจูงใจของ เบนเน็ตต์ ที่แสดงออกด้วยการนั่งเฉย ระหว่างเคารพเพลงชาติก่อนเกม
เหตุการณ์น่าเศร้าครั้งนี้ อาจบ่งบอกว่า ข้อเรียกร้องของ เคเปอร์นิก น่าจะถูกต้องแล้ว เนื่องจากการแบ่งแยกชนชั้นด้วยสีผิว หรือเชื้อชาติ ก็มักจะนำมาซึ่งความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างตำรวจกับประชาชน หรือประชาชนด้วยกันเอง ดังนั้นจึงมีคนกลุ่มหนึ่ง เคลื่อนไหวให้ทีม NFL ให้โอกาส จอมทัพสัดส่วน 6 ฟุต 4 นิ้ว พิสูจน์ฝีมือ
ย้อนกลับมามองบ้านเรา บางครั้งเราก็มักจะเห็นคนที่มีชื่อเสียง เคลื่อนไหวสิ่งที่ตัวเองเชื่อ หรือต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แม้ผ่านมานานหลายปี อุดมการณ์เหล่านั้นได้รับการพิสูจน์ความจริงแล้ว แต่คนเหล่านั้นกลับไม่ได้มาอยู่จุดที่ตัวเองเคยอยู่ หรือหายสาบสูญไปจากบทบาทที่เราเคยรู้จัก แน่นอนว่าวันนี้ อาจมีพลังหนุน เคเปอร์นิก อยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่า จะแกร่งได้นานเพียงใด สุดท้ายจะด้วยความใจแคบของ NFL หรืออะไรก็ตาม ก็อาจทำให้เราไม่ได้เห็น ควอเตอร์แบ็กดีกรีรองแชมป์ กลับมาลงสนามอีก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
