ผู้จัดการรายวัน 360 - ปกติเวลามีการแข่งขันกอล์ฟรายการเมเจอร์ ทุกสายตาของสื่อและแฟนๆล้วนจับจ้องไปที่มือดังระดับโลกที่เป็นตัวเต็งเช่น ดัสติน จอห์นสัน มือ 1 จาก สหรัฐอเมริกา, รอรีย์ แม็คอิลรอย ความหวังสูงสุดจากฝั่ง สหราชอาณาจักร, จอร์แดน สปีธ ขวัญใจอีกหนึ่งรายจากเมืองลุงแซม ทว่าศึกเมเจอร์ที่ 3 ของปี บริติช โอเพน ที่เมืองผู้ดีหนนี้ต้องใส่ชื่อของ ฮิเดกิ มัตสึยามะ จากญี่ปุ่นสอดแทรกเข้าไปด้วย เพราะถือเป็นคนที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในชั่วโมงนี้
กอล์ฟเมเจอร์รายการล่าสุด บริติช โอเพน หรือ “ดิ โอเพน” ครั้งที่ 146 งวดนี้จัดแข่งกันที่ รอยัล เบิร์กเดล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,156 หลา พาร์ 70 เมืองเซาธ์พอร์ต อังกฤษ ระหว่างวันที่ 20-23 กรกฏาคม นี้ โดยผู้ชนะจะได้ครอบครองถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศ “เดอะ คลาเร็ต จัก” พร้อมเงินรางวัลส่วนแบ่ง 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 60 ล้านบาท) จากเงินรางวัลรวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 336 ล้านบาท) แชมป์เก่าคือ เฮนริค สเตนสัน จาก สวีเดน
ไฮไลต์ของสื่อและแฟนกอล์ฟส่วนใหญ่คงมุ่งเน้นไปที่โปรดังหัวแถวเพราะมากันครบครันเช่น “ดีเจ” ที่สลัดอาการบาดเจ็บเพื่อลุ้นแชมป์เมเจอร์ใบที่ 2 , จัสติน โรส ความหวังอันดับ 1 ของเจ้าถิ่น, รอรีย์ แม็คอิลรอย จาก ไอร์แลนด์เหนือ ที่หมายทิ้งฟอร์มฝืดกลับมายิ่งใหญ่, จอร์แดน สปีธ มือ 3 โลกชาวอเมริกัน ที่กลับมาโชว์ฟอร์มดีได้แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 2 ใบในปีนี้ ทว่าคนที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ ฮิเดกิ มัตสึยามะ จากญี่ปุ่น ที่ยกสถานะตัวเองขึ้นมาเป็นหัวแถวลุ้นแชมป์แล้ว
ตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2017 โปรหนุ่มวัย 24 ปี ฉายแสงความแรงที่รายการ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป ที่เมืองจีน เมื่อจารึกชื่อเป็นนักกอล์ฟจากญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์ในซีรีส์ดังกล่าว ตามด้วยโทรฟี ฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ ที่ บาฮามาส และล่าสุดคือ เวสต์ มาเนจเมนต์ ฟินิกซ์ โอเพน ที่ป้องกันแชมป์ได้จากการเพลย์ออฟสู้กับ เว็บบ์ ซิมป์สัน ก่อนเฉือนชนะแบบสุดระทึก พร้อมคะแนนสะสมที่ส่งให้ขึ้นมาเป็นมือ 2 โลกของ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิง ภายในปีเดียว
จุดเด่นของ มัตสึยามะ ที่เหล่าเกจิชื่นชมคือการพัตต์ลูกที่เฉียบคมยามเมื่อถึงช่วงตัดสิน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมจากฤดูกาล 2016 รวมถึงพละกำลังที่ดีในการสวิงลูกจากจุดทีออฟครั้งแรก ส่วนผลงานระดับเมเจอร์ก็น่าพึงพอใจจบตำแหน่งท็อป 10 มาแล้ว 6 รายการ เล่นเอา จอร์แดน สปีธ หนึ่งในตัวเต็งจากอเมริกา ที่มีโอกาสประลองฝีมือกันหลายครั้ง กล่าวชื่นชมว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใกล้ความสำเร็จครั้งใหญ่ไปทุกที
“ไม่ต้องสังสัยเลยว่าเขาจะต้องได้แชมป์เมเจอร์เร็วๆนี้” สปีธ กล่าวต่อ “ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วสำหรับ ฮิเดกิ ผมเคยพูดเรื่องนี้ไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน และเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอจะต้องเกิดขึ้น เพราะเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างยามลงสนาม แถมยังเล่นรายการเมเจอร์ที่ ออกัสตา ได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือเครื่องพิสูจน์”
ส่วน มัตสึยามะ ก็เชื่อมั่นเช่นกันว่าเวลาแห่งเกียรติยศเริ่มเข้าใกล้มาถึง และต้องการไขว่คว้าให้ได้ในสุดสัปดาห์นี้ “ผมหวังว่าจะยังรักษามาตรฐานการเล่นและช่วงเวลาที่ดีของตัวเองไว้ได้ใน บริติช โอเพน เพราะที่ผ่านมาก็ได้ซ้อมอย่างหนักหน่วงและปรับตัวกับสภาพอากาศได้แล้ว สิ่งเหล่านี้น่าจะช่วยให้ผมทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อถึงวันนั้น”
สำหรับ มัตสึยามะ จะออกรอบก๊วนเดียวกับ ทอมมี ฟลีทวูด มือดีของเจ้าถิ่น และ บรูค โคเอปกา จาก สหรัฐอเมริกา ในสองวันแรก แม้การคว้าแชมป์ครั้งนี้จะไม่ได้ทำให้เจ้าตัวแซงขึ้นเป็นมือ 1 โลก หรือได้สลักชื่อว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้โทรฟีเมเจอร์เพราะเมื่อปี 2009 ยาง อึน ยอง จากเกาหลีใต้เคยทำได้ใน พีจีเอ แชมเปียนชิป ปี 2009 แต่หากทำสำเร็จ ก็จะได้ชื่อว่าเป็นสวิงจากญี่ปุ่นคนแรกที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ และปลุกกระแสกอล์ฟในญี่ปุ่นให้คึกคักขึ้นมาอีกรอบ
