xs
xsm
sm
md
lg

เฟดเอ็กซ์ “คิง ออฟ เทนนิส” ต้นแบบ “ยอดนักกีฬา” ล่ามือ 1 โลกก่อนปิดฉาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟดเอ็กซ์ กับชัยชนะวิมเบิลดันทั้ง 8
เอเยนซี – ศึกเทนนิส แกรนด์ สแลม วิมเบิลดัน ปิดฉากอย่างเป็นทางการด้วยภาพแห่งชัยชนะของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดมือเก๋าชาวสวิสที่ชูถ้วยแชมป์ขึ้นฟ้าต่อหน้าคนดูเรือนหมื่นเมื่อค่ำคืนวันที่ 16 กรกฏาคมที่ผ่านมา เหมือนเป็นการตอกย้ำตำแหน่ง “คิง ออฟ เทนนิส” แห่งยุคชนิดที่ไม่มีใครคัดค้าน ก่อนเดินหน้าสู่เป้าหมายใหญ่คือการทวงตำแหน่งมือ 1 โลก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาในชีวิตการเล่นอาชีพปีนี้

เกมที่ ออล อิงแลนด์ คลับ เฟเดอเรอร์ ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 11 พบกับ มาริน ซีลิช แชมป์ ยูเอส โอเพน ปี 2014 จากโครเอเชีย ก่อนจบลงอย่างสมหวังสำหรับแฟนๆ “เฟดเอ็กซ์” ทั่วโลกเมื่อบรรจงเสิร์ฟเอซลูกสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ กำชัยชนะ 3-0 เซต 6-3, 6-1, 6-4 สิ้นสุดภารกิจหยิบแชมป์ แกรนด์ สแลม คอร์ตหญ้า สมัยที่ 8 สูงสุดในประวัติศาสตร์ แซงหน้าฮีโร่ของเขาอย่าง พีท แซมพราส ตำนานมือ 1 โลกชาวอเมริกันเป็นที่เรียบร้อย

ฤดูกาล 2017 นับเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของนักหวดวัย 35 ปี เพราะตั้งแต่เริ่มปฏิทินใหม่ก็ได้ แกรนด์ สแลม ออสเตรเลียน โอเพน เอาฤกษ์เอาชัย ตามด้วยความสำเร็จในรายการมาสเตอร์ส ที่ อินเดียน เวลส์ และ ไมอามี จากนั้นตัดสินใจเว้นวรรคช่วงฤดูกาลคอร์ตดินที่ไม่ถนัด พักฟื้นร่างกายให้พร้อมลุยคอร์ตหญ้าสุดโปรด แล้วบินไปเอาแชมป์ที่ ฮัลเล เยอรมนี ก่อนจบด้วยการบวกสถิติ แกรนด์ สแลม สมัยที่ 19 ที่กรุงลอนดอน

ผลงานหลังจบ วิมเบิลดัน ส่งให้นักหวดมือเก๋าแดนนาฬิกา ขยับแรงกิงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 จากการจัดอันดับโลกครั้งล่าสุดของ เอทีพี มี 6,545 แต้ม และนั่นทำให้สื่อทุกสำนักมองว่าอีก 4 เดือนที่เหลือก่อนปิดฤดูกาล จะเป็นช่วงเวลาแห่งการไล่ล่าตำแหน่งมือ 1 โลก กลับมาสู่อ้อมกอดของ เฟเดอเรอร์ เพราะการพักยาว 6 เดือนเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เจ้าตัวสามารถโกยแต้มจากรายการต่างๆได้เป็นกอบเป็นกำ หากสามารถเข้ารอบลึกต่อเนื่อง โดยมีคู่ปรับสำคัญอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่มีโอกาสทำได้ในสถานการณ์แบบเดียวกัน

สหพันธ์เทนนิสอาชีพชาย (เอทีพี) เปิดเผยสถิติน่าสนใจว่าคนที่ได้แชมป์ วิมเบิลดัน ส่วนใหญ่มักจบฤดูกาลที่ตำแหน่งมือ 1 โลกเสมอ โดยครั้งสุดท้ายที่ เฟเดอเรอร์ คว้าโทรฟี่ที่เมืองผู้ดีและจบปฏิทินที่ตำแหน่งสูงสุดของวงการ เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ก่อนจะสลับให้คู่ปรับอย่าง นาดาล รวมถึง แอนดี เมอร์เรย์ และ โนวัค ยอโควิช ผลัดกันขึ้นไปเชยชม อย่างไรก็ตาม หากเจ้าตัวจบปีนี้ด้วยอันดับ 1 ของโลก ก็อาจเป็นฉากสุดท้ายของเขาในอาชีพที่ทุกคนจะได้เห็น

เหตุผลคือเมื่อจบการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ เปิดใจพูดกับสื่อแม้ยังตั้งใจว่าจะกลับมาป้องกันแชมป์ที่ อังกฤษ แต่ก็ไม่อาจการันตีได้ว่าจะทำตามสัญญา "ผมหวังว่าจะได้กลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ โดยเฉพาะวันที่คุณไม่ได้อยู่ในอายุ 35 อีกต่อไป วันนี้ผมได้แชมป์สมัยที่ 8 นั่นคือสิ่งที่น่าทึ่งมากพออยู่แล้ว"

19 ปีที่โลดแล่นในอาชีพ เฟเดอเรอร์ ประสบความสำเร็จแทบทุกสิ่งบนโลกนี้ ได้ แกรนด์ สแลม ครบทุกรายการ มากที่สุด 19 สมัยในประวัติศาสตร์เทนนิสชาย, แชมป์ เอทีพี ทัวร์ แบบทั่วถึงทั้งรายการใหญ่และเล็ก, เหรียญทอง โอลิมปิก 2008 ชายคู่ที่จับมือกับ สแตน วาวรินก้า ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน, เหรียญเงิน โอลิมปิก 2012 ชายเดี่ยวที่กรุงลอนดอน อังกฤษ, ครองมือ 1 โลก มากที่สุด 302 สัปดาห์ สิ่งเดียวที่ขาดคือเหรียญทองเดี่ยว โอลิมปิก แต่โอกาสปรากฏตัวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ยากเต็มทนเพราะร่างกายในวัย 39 ปี คงฟาดฟันกับรุ่นน้องไม่ไหว

ปีนี้ เฟเดอเรอร์ เหลือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ให้เก็บอีก 2 รายการคือ แกรนด์ สแลม สุดท้าย ยูเอส โอเพน ที่ สหรัฐอเมริกา เดือนสิงหาคม และ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่เมืองผู้ดี เดือนพฤศจิกายน ซึ่งน่าจะเป็นฉากส่งท้ายในชีวิตการเล่นอาชีพแล้ว กระนั้นไม่ว่าการเดินทางของ เฟเดอเรอร์ จะจบลงอย่างไร ผลงานมากมายที่สร้างไว้รวมถึงแนวทางการดูแลรักษาร่างกายให้สามารถเล่นกีฬาได้ยาวนานกว่าใคร ก็เพียงพอแล้วที่ทุกคนจะยกย่องให้เป็นยอดนักกีฬาของโลก เป็นโมเดลที่ดีให้แก่นักกีฬาทุกชนิดบนโลกนี้ยึดถือเป็นแบบอย่างตลอดไปในทุกยุคสมัย
เหวี่ยงแร็กเกตได้แข็งแกร่งในวัย 35
มีกองเชียร์ทั่วโลก
รอแย่งมือ 1 โลกกับ นาดาล
กำลังโหลดความคิดเห็น